เมื่อวันที่ (22 มี.ค. 2565) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ศปข.ตร.) เผยว่า สืบเนื่องจากมีคลิปวีดีโอ ปรากฏเห็นกลุ่มวัยรุ่น 3 คน แข่งรถกันขับขี่ในลักษณะกีดขวางทางรถพยาบาลที่กำลังจะไปส่งผู้ป่วยนั้น ปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆ ทุกแขนง จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4,พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร และ พ.ต.อ.เศกสรร สุขประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงและสืบสวนพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าทั้ง 3 คนเป็นผู้ใด แล้วนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจากคลิปจนได้ทราบว่าบุคคลทั้ง 3 คือ
1.นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี (คนหมอบราบไปกับรถจักรยานยนต์) ชาว ต.ไร่ อ.พรรณานิคม
2.นายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี (คนหน้าซ้ายสุด) ชาว ต.ไร่ อ.พรรณานิคม
3.นายซี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี (คนกลางขวาสุด) ชาว ต.ไร่ อ.พรรณานิคม
โดยได้ทำการจับกุมและตรวจยึดจักรยานยนต์ทั้ง 3 คัน มาทำการสอบสวนได้ความว่าออกมาจากหมู่บ้านไร่ ต.ไร่ อ.พรรณานิคม เพื่อมาเติมน้ำมันที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งที่ บ.วังยาง ต.วังยาง อ.พรรณานิคม ระหว่างทางได้แข่งกันมาบนถนน ได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน จึงหันไปมองเห็นเป็นรถพยาบาล จึงเกิดความคึกคะนอง ซึ่งนายเอ (นามสมมุติ)ได้มีความคึกคะนองกว่าคนอื่น ได้เปลี่ยนท่าจากนั่งเป็นหมอบราบไปกับเบาะรถ ยิ่งได้ยินเสียงไซเรนใกล้เข้ามาก็ขี่ปาดหน้าไปมาอย่างกระชั้นชิด(ตามเหตุการณ์ที่เกิดในคลิปจริง)
พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นโดยแจ้งข้อหาหลัก คือ ร่วมกันแข่งรถในทาง,ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและขับรถไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเมื่อเห็นรถฉุกเฉิน ซึ่งหลังจากนี้จะลงโทษในทุกข้อหาแล้วนำไปสู่การเสนอให้ริบรถที่ใช้ในการกระทำความผิด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง หากก่อความเดือดร้อนในลักษณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนทั่วไป
ผอ.ศปข.ตร. ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงปัญหาการแข่งรถในทาง เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่สังคมและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน จึงกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนและยั่งยืน จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแส สามารถแจ้งมายัง ศปข.ตร. ได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือถ่ายคลิปวิดีโอส่งมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. จะมีเงินรางวัลนำจับ 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้.
เรียบเรียง / ชูชัย ดำรงสันติสุข ศูนย์ข่าวภูมิภาค TOP NEWS ภาคตะวันออกฉียงเหนือ