"โควิดรอบล่าสุด" จีนเฉียบ สับโทษหนัก 74 เจ้าหน้าที่ เหตุ ปล่อยให้เกิดการระบาดหนัก จนต้องล็อกดาวน์หลายเมือง
ข่าวที่น่าสนใจ
“โควิดรอบล่าสุด” ในจีน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 20,000 รายทั่วประเทศ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเองก็รับทราบดีว่า การติดเชื้อส่วนใหญ่ในตอนนี้แสดงอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งทำให้การตรวจพบยากขึ้น ทำให้เหล่าผู้นำระดับสูงต่างเตือนเจ้าหน้าที่ว่า หากปล่อยปละละเลยหรือล้มเหลวในการควบคุมสถานการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทั้งหลายจะต้องเจอบทโทษอย่างหนัก
ด้านหนังสือพิมพ์ South China Morning Post อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัว ระบุว่า รัฐบาลจีนลงโทษเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 74 คน ฐานปล่อยให้เกิดการระบาดโควิด-10 จนต้องล็อกดาวน์เมืองใหญ่หลายเมือง โดยการลงโทษดังกล่าว มีระดับความรุนแรงตั้งแต่การประณามไปจนถึงการไล่ออกเลยทีเดียว
ตัวอย่างกรณีการถูกไล่ออกนี้ เริ่มที่ทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ 14 คน รวมรองผู้บัญชาการตำรวจของมณฑลกวางตุ้งและเซินเจิ้น และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของตงกวน ถูกไล่ออกโดยที่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว กล่าวว่า พวกเขาถูกลงโทษ เนื่องจาก ความล้มเหลวในการตรวจหาและควบคุมการระบาดอย่างรวดเร็วในสถานกักกันตงกวนและเซินเจิ้น เนื่องจาก คณะกรรมการกลางให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติงานเป็นอย่างมาก ผู้ที่ล้มเหลวจะต้องถูกไล่ออก ในขณะที่ผู้ที่ทำได้ดีจะได้เบื่อนตำแหน่ง
ส่วนมณฑลจี๋หลิน ทางเหนือของจีนใกล้กับเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดรอบล่าสุด ประกาศไล่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงในเมืองหลวงฉางชุน และนายกเทศมนตรีเมืองจี๋หลิน พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 12 คน เนื่องจาก ไม่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของการติดเชื้อในจีน
นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ปักกิ่งได้ตำหนิเจ้าหน้าที่และไล่ออกไปกว่า 1,000 คนแล้ว ฐานล้มเหลวในการควบคุมโรคระบาด รวมถึงเจียง เชาเหลียง อดีตเลขาธิการพรรคหูเป่ย และผู้ว่าการหวาง เซี่ยวตง
นโยบายการลงโทษดังกล่าว เกิดจากแนวทางการตั้งเป้าหมายให้โควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน ทำให้หลายแห่งยังคงมาตรการรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจคนทั้งเมืองนับสิบล้านคน หรือการล็อกดาวน์ ห้ามเข้าออกพื้นที่อย่างเด็ดขาด ตลอดจนการตรวจสอบความเสี่ยงอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะพยายามปรับนโยบายเป็นการอยู่ร่วมกับโควิด-19 ให้ได้แล้วก็ตาม
ข้อมูล : South China Morning Post
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-