ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเสียและยูเครน ได้ส่งผลกระทบต่อทั่วทุกมุมโลก รวมถึงประเทศไทย ล่าสุดวันนี้ ราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอลมีการปรับราคาขึ้นอีก 60 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่กลุ่มน้ำมันดีเซล ยังตรึงอยู่ที่ราคา 30 บาท เพราะรัฐบาลทุ่มงบประมาณวันละ 600 ล้านบาท มาอุดหนุนไว้ เพื่อคุมต้นทุนการขนส่งสินค้า ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในภาพรวม และเดือดร้อนถึงประชาชนผู้อุปโภคบริโภค แต่เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ยังมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นไม่หยุด บวกกับเงินจากกองทุนน้ำมันที่ติดลบแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพราะนำไปอุดหนุนราคาดีเซลและแก๊สแอลพีจี ระยะยาวรัฐบาลจึงไม่สามารถจะอุดหนุนให้ดีเซลอยู่ที่ราคา 30 บาทต่อลิตรได้ตลอดไป จึงเป็นที่มาของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ที่รัฐบาลได้ออก 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยหนึ่งใน10 มาตรการคือ รัฐบาลจะตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้เท่านั้น หลังจากนั้นรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอุดหนุนส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง