จากกรณีที่ โรงพยาบาลชื่อดังหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพมหานครและตามต่างจังหวัด ประกาศเลื่อนวันให้บริการฉีดวัคซีนกับผู้สูงอายุ 60 ปี และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เนื่องจาก มีวัคซีนไม่เพียงพอต่อประชาชน จนเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่า เกิดอะไรขึ้นกับการจัดสรรวัคซีน และเพราะเหตุใด วัคซีน จึงไม่เพียงพอต่อกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยง
โดยผู้สื่อข่าว TOP NEWS ได้พูดคุยกับ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสอบถามถึงกรณีที่ โรงพยาบาลหลายแห่ง เลื่อนการฉีดวัคซีน เนื่องจาก มีวัคซีนไม่เพียงพอ โดย นพ.รุ่งเรือง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ผ่านทางโทรศัพท์ โดยกล่าวว่า สาเหตุที่ โรงพยาบาลหลายแห่ง มีวัคซีนไม่เพียงพอที่จะฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เนื่องจาก วัคซีนที่ได้รับมา แม้จะมีเพียงพอ แต่การจัดสรรวัคซีน ต้องส่งไปให้กับพื้นที่ ที่มีการระบาดเป็นจำนวนมาก
ซึ่ง วัคซีน แม้จะมีจำนวนมากพอ แต่ก็ไม่สามารถฉีดให้กับประชาชนได้พร้อมกันทุกคน จำเป็นที่จะต้องทยอยฉีด โดยจะเน้นฉีดให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นลำดับต้น ๆ ซึ่ง กรุงเทพมหานคร ถือเป็นพื้นที่ระบาดและมีความเสี่ยงสูง จึงต้องจัดส่งวัคซีนเป็นจำนวนมากให้กับ คณะกรรมการโรคติดต่อของกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปส่งต่อให้กับโรงพยาบาลและหน่วยฉีดวัคซีนตามจุดต่าง ๆ โดยจะมีเกณฑ์การแบ่งที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ กรมควบคุมโรค อาทิ การแบ่งวัคซีนตามจำนวนประชากรในแต่ละจังหวัด การแบ่งวัคซีนตามพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่ ที่มีประชากรกลุ่มเสี่ยงเป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องพบกับปัญหาเรื่องการจัดสรรฉีดวัคซีน จึงทำให้เกิดปัญหาวัคซีนไม่เพียงพอ แต่ทางโรงพยาบาล ก็ไม่ควรที่จะหยุด หรือ เลื่อนการฉีดวัคซีนออกไป ทั้ง ๆ ที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดสรรวัคซีนให้กับ กทม. ไปอย่างเพียงพอแล้ว จึงต้องทำการตรวจสอบกับทาง คณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานคร ว่า มีการวางแผนดำเนินงานอย่างไร และทำไมต้องมีการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนเช่นนั้น เพื่อที่จะนำกลับมาแก้ไขระบบการจัดการให้ดีขึ้น
โดยขณะนี้พบว่า มีกรณีที่หลายโรงพยาบาลเลื่อนฉีดวัคซีน ทำให้ กระทรวงสาธารณสุข เกิดความไม่สบายใจ จึงอยากแนะนำให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้ดูแลตนเอง ตามหลัก New normal เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และวัคซีน เป็นเพียงเครื่องมือเสริมในการป้องกันการติดเชื้อ อีกทั้ง ต้องเร่งที่จะบริหารจัดการวัคซีนให้เกิดประสิทธิภาพในแต่ละพื้นที่ ตามหลักวิชาการ รวมถึง โรงพยาบาลตามต่างจังหวัด ที่ทำการเลื่อนการฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และระดับโลก จึงยอมรับว่า อาจจะมีปัญหาในการทำงานบางจุด ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการวัคซีนของแต่ละจังหวัดด้วย ถึงอย่างไรก็จะพยายามไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน อีกทั้ง การทำงานในขณะนี้ถือเป็นการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน
นพ.รุ่งเรือง กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่อยากให้ประชาชนมองว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการโยนปัญหากันไปมาของหน่วยงาน แต่อยากให้ทุกฝ่ายมองปัญหาร่วมกัน เพื่อที่จะเข้าใจและแก้ไขร่วมกัน อีกทั้ง อยากให้ประชาชน มั่นใจว่า เดือนกรกฎาคม นี้ เป็นต้นไป วัคซีนจะถูกนำเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น และเพียงพอต่อประชาชนในเดือนสิงหาคมอย่างแน่นอน