14 มิ.ย. 64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กรำลึก 24มิถุนายน 2564 89 ปี ของการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยและวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการสถานการณ์โควิดล้มเหลว รวมทั้งประเมินว่าการยุบสภาอาจจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีปฏิทิน 2565 โดยนายเสกสกลมั่นใจว่านายกฯ ไม่คิดเรื่องของการยุบสภาฯอย่างแน่นอน และจะต้องอยู่จนครบเทอมเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และยิ่งในขณะนี้ประเทศเกิดการระบาดโควิด-19 นายกฯ และรัฐบาลต้องอยู่เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นวิกฤต
นายเสกสกลระบุว่านายภูมิธรรมไม่ควรออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนได้ และยังทำลายบรรยากาศความเชื่อมั่นในการลงทุน ส่งผลถึงการทำลายเศรษฐกิจประเทศด้วย การทำตัวเป็นหมอเดาแล้ววิพากย์วิจารณ์ต้องคิดให้ดีว่าจะส่งผลเสียหายต่อประเทศอย่างไร ควรใช้สมองไตร่ตรองก่อนจะออกมาพูดหรือโพสต์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆที่นายกฯจะยุบสภาฯ ทั้งการทำงานในสภาฯยังเป็นไปได้ด้วยดี รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานเป็นเอกภาพ ไม่มีสัญญาณการถอนตัว เพราะรัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจสถานการณ์ดี ที่ต้องช่วยกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ได้คิดถึงประเด็นทางการเมือง
นายเสกสกล ย้ำว่าที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนายกฯ และรัฐบาล ยังบริหารงานได้ดีและทำงานอย่างเต็มที่ ได้แก้ไขปัญหาหลายอย่าง พัฒนาประเทศ รวมถึงการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 การบริหารจัดการวัคซีน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันแล้วว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ และประชาชนจะได้ฉีดเข็มแรกครบ 50 ล้านคนในเดือนกันยายน หรืออย่างช้า เดือนตุลาคมนี้ อีกทั้งขณะนี้ไทยยังมียอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน
“นายภูมิธรรม ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ เคยเป็นอดีตรัฐมนตรี ก็ขอทำตัวให้เหมาะสม อย่าทำตัวเป็นหมอเดา เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนได้ นอกจากนี้ขออย่าพูดเอาดีใส่ตัว และหวังผลประโยชน์ให้กับพรรค ตนเข้าใจดีว่าพรรคเพื่อไทยอยากเข้ามาเป็นรัฐบาลมากจนลืมจริยธรรม มารยาททางการเมือง อยากมาเป็นรัฐบาลขอให้เข้ามาตามกระบวนการ อย่าหวังลมๆแล้งๆ รอนายกฯยุบสภาฯหรือลาออก ยืนยันนายกอยู่ครบเทอม ให้นับวันรอว่าครบ4 ปีค่อยไปลงสนามเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง”