เปิดใจช่างภาพ หลังสินสอด 1 ล้าน ล่องหนในงานแต่ง จนกลายเป็นผู้ต้องสงสัย

เปิดใจช่างภาพ หลังสินสอด 1 ล้าน ล่องหน จากกรณีที่มีช่างภาพรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า เตือนภัยฝากถึงช่างภาพ และออแกไนซ์ ผู้จัดงานร่วมอาชีพ ให้ระมัดระวัง

วันนี้(29 มีนาคม 2565)ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับช่างภาพรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tana Nop หลังจากมีการโพสต์ข้อความระบุว่า เตือนภัยฝากถึงช่างภาพ และออแกไนซ์ ผู้จัดงานร่วมอาชีพ โดยช่างภาพรายนี้ เปิดเผยว่า ตนและทีมงานได้ไปสแตนบายที่งานแต่งงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ตนกับช่างภาพอีกคนหนึ่งรวม 2 คนได้ตามถ่ายภาพคู่บ่าวสาวไปจนกระทั้งจบงาน โดยขณะในพิธีทีมช่างภาพได้ตามถ่ายรูปคู่บ่าวสาวตลอดงาน แม้กระทั่งตอนที่แม่เจ้าสาวแบกสินสอดเข้าห้องก็มีการถ่ายภาพเอาไว้เช่นกัน ส่วนเงินสินสอดจำนวน 1 ล้านบาทที่อยู่ในพิธีนั้น มีลักษณะเป็นเงินแบงค์พัน 1 ปึก ถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกแรปซีนมาอย่างดี และมีปากกาเคมีเขียนกำกับไว้ว่า 1 ล้าน ในขณะประกอบพิธีไม่ได้มีการแกะห่อพลาสติก หรือเอาเงินออกมานับแต่อย่างใด และภาพสุดท้ายที่ตนเห็นเงินคือ แม่เจ้าสาวยกปึกเงินแบกขึ้นบ่าแล้วเดินเข้าห้องไป หลังจากตนทำงานจนเสร็จแล้วเวลาประมาณ 12.30 นาฬิกา ตนได้ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และเก็บอุปกรณ์ ที่อยู่บนบ้าน ซึ่งวางอยู่หน้าห้องนอนที่เก็บเงินจำนวนดังกล่าว แล้วเดินทางกลับบ้านตามปกติ ยืนยันว่าไม่ได้มีการเข้าไปภายในห้องแต่อย่างใด
จากนั้นทางออแกไนซ์ ได้โทรมาแจ้งว่า ตนต้องไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเงินสินสอดจำนวน 1 ล้านบาทในพิธีแต่งงานเมื่อเช้าหายไป และตนคือผู้ต้องสงสัย เพราะได้ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บอุปกรณ์ หลังจากทราบเรื่องจึงเดินทางไปยังบ้านเจ้าภาพอีกครั้ง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เมื่อไปถึงก็โดนแม่ของฝั่งเจ้าสาวเดินเข้ามาต่อว่า “เงินหายไป จะเอายังไง” ตนได้ยินก็ตกใจและแขกในงานก็หันมามองกันหมด ก่อนที่เจ้าสาวจะมาดึงผู้เป็นแม่ออกไป

ข่าวที่น่าสนใจ

การที่ตนออกมาโพสต์เรื่องราวดังกล่าว เพื่อเป็นการเตือนเพื่อนร่วมอาชีพ เนื่องจากเราต้องเข้านอกออกในบ้านของเจ้าภาพซึ่งเราเป็นคนนอก ด้วยจำนวนเงินที่เยอะมาก เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เรามักจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นคนแรก จึงอยากเตือนให้เพื่อนร่วมอาชีพระมัดระวังตัว เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ส่วนความคืบหน้าทางคดีจะไปในทิศทางใด ต้องรอฟังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของตนหากมีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่าตนไม่ได้เป็นผู้นำเงินจำนวนดังกล่าวไป ตนอยากได้เพียงคำขอโทษอย่างจริงใจ ไม่ได้ต้องการอย่างอื่น เพราะตนทำงานด้วยความตั้งใจอย่างเต็มร้อย เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วมาโทษกันแบบไม่มีหลักฐาน ทำให้เสียความรู้สึก ซึ่งหลังจากทางตนได้โพสต์ข้อความเตือนภัยไป ทางเจ้าภาพยังไม่ได้มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะเจอเงินแล้วหรือเพราะเหตุใดกันแน่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น