“ทนายนกเขา” ชง ดีเอสไอ รับคดี “แตงโม” เป็นคดีพิเศษ

ทนายนกเขา เข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอการปฏิรูปกฎหมายไทย พร้อมชง ดีเอสไอ รับคดี แตงโม นิดา เป็นคดีพิเศษ

นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย พร้อม น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้แก้ไข พ.ร.บ.การให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ.2559 เพื่อปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงสาวชื่อดัง

ข่าวที่น่าสนใจ

นายนิติธร เปิดเผยว่า ต้องการให้พิจารณาแก้ไขเนื้อหาของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวใน 3 เรื่องหลักที่พบ คือ
1.รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีหน่วยงานเกี่ยวกับนิติเวช อย่างน้อย 2 หน่วยงานที่เป็นอิสระจากกัน แต่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีการตั้งคณะกรรมการ 1 คณะ ที่มี ผบ.ตร.เป็นคณะกรรมการ และ ผบก.พิสูจน์หลักฐาน เป็นคณะกรรมการ ที่เป็นตำรวจอยู่แล้ว จึงมองว่าไม่เป็นอิสระอย่างแท้จริง
2.การร้องเรียนของประชาชนต้องผ่านความเห็นของคณะกรรมการ ซึ่งกรรมการจะดำเนินการตามที่ผู้ร้องหรือไม่ก็ได้ หรือเพียงบางประเด็นก็ได้ ทั้งที่กฎหมายเดิมเปิดกว้าง ไม่สร้างภาระแบบนี้
3.มาตรา 5 ( 1 ) ระบุว่า หากตำรวจหรืออัยการร้องขอให้นิติวิทยาศาตร์ทำงาน ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรต้องนำเข้าสำนวนคดี หากไม่นำเข้าจะถือว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ขณะเดียวกัน กรณีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา จะต้องเข้าคณะกรรมการเพื่อพิจารณา แต่เมื่อกรรมการดำเนินการแล้ว กฎหมายไม่ได้กำหนดให้นำเข้าสำนวนคดี เท่ากับว่า พนักงานสอบสวนจะนำผลจากนิติวิทยาศาสตร์ มาเป็นหลักฐานในสำนวนหรือไม่ก็ได้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของผู้ร้อง จึงมาร้องเรียนวันนี้ เพื่อขอให้ตั้งคณะทำงานพิจารณาเป็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

นายนิติธร ยังเปิดเผยถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเรื่องสืบสวนคดี แตงโม นิดา ว่า ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพื่อทวนสำนวนให้ละเอียด และสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ เพราะคดีนี้มีความซับซ้อน มีหลายประเด็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่แพทย์อาจให้คำตอบไม่ครอบคลุม อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมตำรวจจึงนำเรือสปีดโบ๊ทของกลางไปตั้งตากแดดไว้ ต้องการให้อะไรระเหยไปหรือไม่ เหตุใดจึงทำการเก็บเรือแบบนี้ หากไม่มีเต้นท์มาครอบไว้ก็ติดต่อตนมา จะไปตั้งให้ และกรณีศพ แตงโม นิดา ฟันครบไม่หักนั้น มันไม่มีแค่นั้น ประชาชนคิดมากกว่านั้น ถ้าตำรวจคิดไม่ได้ ทำไม่ได้ก็ลาออกไป เพราะตำรวจมีอำนาจตั้งที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ ถ้าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ทำไม่ได้ ตนเองยินดีเข้าไปช่วยเหลือ

ด้าน นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้เรียนให้กลุ่มประชาชนคนไทยได้ทราบว่า เวลาของรัฐบาลเหลืออยู่เพียง 1 ปี การแก้กฎหมายแต่ละฉบับต้องเร็วมากจนไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำเสร็จภายในเวลาที่กำหนดหรือไม่ แต่ทางกลุ่มก็ขอให้เป็นแนวทางหรือเป็นบรรทัดฐานของคนรุ่นหลังเห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงแก่นของความยุติธรรม อีกทั้งข้อร้องเรียนดังกล่าวนั้นนับเป็นเรื่องที่ดี แต่การทำงานระบบราชการ กฎหมายในอดีตสู้กับปัจจุบันไม่ได้ และปัจจุบันก็สู้อนาคตไม่ได้ ต้องเป็นไปตามกลไกและอุปกรณ์ของแต่ละยุคสมัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พายุฝนพัดถล่มปากพนังเมืองคอนอ่วมอรทัย น้ำท่วมต้นไม้หักโค่นขวางถนน ฝนตกน้ำท่วมและคลื่นลมแรงพัดพัดหอบหอยกาบเกลื่อนชายหาดชาวบ้าน แห่เก็บขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว
รวบแล้ว “พี่สาวเมียทนายตั้ม” หลังตกเป็นผู้ต้องหา “ร่วมกันฟอกเงิน” เร่งสอบปม 39 ล้าน
"ดร.ทันกวินท์" เล่านาที "ไอซ์ รักชนก" โดดเดี่ยว มาศาลฟังไต่สวนถอนประกันสส. ดูไม่มั่นใจเหมือนอยู่สภาฯ
‘สามารถ’ ห่วงแม่อายุมาก มอบทีมทนายยื่นโฉนดมูลค่า 1.2 ล้าน ขอประกันตัว
เยอรมนีจ่อเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด
จีนเตือนไม่มีใครชนะในสงครามการค้า
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "เชน ธนา-ภรรยา" ถูกกล่าวหาฉ้อโกง 29 พ.ย.นี้
“ลุงป้อม” ปัดตอบปม “สิระ” อ้างคนในป่าต่อสายช่วย “สามารถ”
"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง
ตร.นำกำลังทลายแคมป์ "แรงงานต่างด้าวเถื่อน" นับร้อย ย่านหนองใหญ่-ชลบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น