แม้จะคิดและทำใจไว้ก่อนแล้วว่าการเปิดตัวลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนเล็กอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เข้ามาเป็นทายาททางการเมืองของตัวเองในอนาคต จะต้องตกเป็นเป้าทางการเมืองของกลุ่มตรงข้าม กลุ่มเห็นต่าง ที่ลับมีดรอชำแหละกล่องดวงใจของ “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่คนแดนไกลผู้เป็นนักโทษหนีคดีอยู่ที่ดูไบแน่นอนอยู่แล้ว เพราะลำพังตัวอุ๊งอิ๊งก็มีเรื่องมีราวมีประเด็นข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว เมื่อปี พ.ศ. 2547 เพราะจู่ๆ คะแนนของอุ๊งอิ๊งสูงขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ ก้าวกระโดดดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา ภาษาไทย จาก 52 เพิ่มเป็น 72 สังคม จาก 41.25 เพิ่มเป็น 67.5 ภาษาอังกฤษจาก 64 เพิ่มเป็น 84 คณิตศาสตร์ 2 จาก 27 เพิ่มเป็น 63 เรื่องนี้ก็เลยเป็นประเด็นที่ทำให้สังคมกังขา ถึงการเก่งข้ามคืนของอุ๊งอิ๊งมาโดยตลอดไม่ว่าจะแก้ตัวแก้ต่างยังไง ปมข้อสอบรั่วก็เป็นมลทินติดตัวอุ๊งอิ๊งไปตลอดกาล
ความจริงทักษิณก็บวกลบคูณหารเตรียมรับมือเรื่องนี้มาก่อนแล้วเพราะทราบดีว่ายังไงปมนี้ก็ต้องถูกขุดถูกขยายมาโจมตีลูกสาวคนเล็กแน่นอนอยู่แล้ว โดยเฉพาะหากประกาศตัวเข้ามาเล่นการเมือง แต่เพราะรอบนี้เป็นไฟล์บังคับทางการเมืองที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว เพราะทักษิณเกิด 26 กรกฎาคม 2492 ปัจจุบันอายุ 72 ปี อาจจะเรียกว่าไม้ใกล้ฝั่งเต็มที ถ้าการเลือกตั้งรอบนี้พรรคเพื่อไทยไม่ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ถล่มทลายทั้งแผ่นดิน แบบที่พรรคไทยรักไทยเคยได้ส.ส. ครั้งแรกเมื่อ 6 มกราคม 2544 ไป 248 คน และ ชนะทั้งแผ่นดินในการเลือกตั้งครั้งที่ 2 เมื่อ 6 กุมภาพันธุ์ 2558 โดยเป็นพรรคการเมืองแรกที่กวาดส.ส.ได้มากสุดถึง 377 คน ชนิดที่สามารถตั้งรัฐบาลได้โดยลำพังเพียงพรรคเดียว เชื่อแน่ว่าการผลักดันอุ๊งอิ๊งขึ้นเป็นนายกฯคงเป็นเรื่องลำบากการกลับบ้านยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะฉะนั้นเลือกตั้งเที่ยวหน้าไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด จะเป็นปลายปีนี้ 2565 หรือ ต้นปีหน้า 2566 ก็ถูกมองว่าเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายที่จะพาทักษิณกลับบ้าน ขณะที่อุ๊งอิ๊งก็คือตั๋วใบสุดท้ายนั้นเอง
ย้อนอดีตกลับไปก่อนหน้านี้ทักษิณเคยคิดโมเดล “นารีขี่ม้าขาว” ด้วยการส่งน้องสาวอย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ในบัญชีรายชื่อสมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 16 พฤษภาคม 2554 ประกาศเปิดตัวกับพรรคเพื่อไทย จากนั้นยิ่งลักษณ์ใช้เวลาหาเสียงลงพื้นที่อ้อนขอคะแนนจากชาวบ้านเป็นเวลา 49 วัน จากนั้่น 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.ไป 265 คน ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯคนที่ 28 และเป็นผู้นำหญิงประวัติศาสตร์คนแรกของประเทศไทย งวดนี้ทุ่มหมดหน้าตักเพราะส่งดีเอ็นเอโคลนนิ่งตัวเองอย่างลูกสาวคนสุดท้องผู้เป็นสุดที่รัก ลงต่อสู้ชิงชัยในสงครามครั้งสุดท้าย ทักษิณคิดการใหญ่วางแผนไว้หมดแล้วคราวนี้หวังใช้สูตรสำเร็จเก่าโมเดลเดิมของตระกูลชินวัตรในการผลักดันคนใกล้ชิดที่ไว้ใจขึ้นเป็นนายกฯอีกคราว
เพียงแต่ปรับสูตรการปล่อยของลงน้ำให้เร็วขึ้นเพื่อให้ลูกสาวได้เรียนรู้ปรับตัวทางการเมืองตั้งแต่เนิ่นๆ สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ตอนนั้นลงเล่นการเมืองอายุ 44 ปีใช้เวลา 49 วันได้เป็นนายกฯ มารอบนี้ขอปล่อยอุ๊งอิ๊งลงสนามการเมืองไวหน่อยให้เตรียมตัวกันยาวๆ เพราะในวัย 35 ปีประสบการณ์ความเขี้ยวรากดินยังน้อย จึงต้องอาศัยชั่วโมงบินลงพื้นที่พบปะชาวบ้านให้นานหน่อย ไม่ได้เปิดตัวเปรี้ยงเดียวแล้วขึ้นเวทีชกเลยเหมือนน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ค่อยๆเปิดเป็นสเต็ปๆ ไปช้าๆทีละก้าว ปลายปีที่แล้ว 28 ต.ค.2564 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ระหว่างจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ภายใต้แคมเปญ ” พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” เริ่มเปิดตัวอุ๊งอิ๊งในฐานะ “ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม” ให้ชาวบ้านเริ่มจดจำ จากนั้นไม่นานมานี้เมื่อ 20 มีนาคม 2565 ระหว่างไปคาราวานที่อีสานเพื่อเปิดตัวโครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม” ณ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ มลฑาทิพย์ฮอลล์ จ.อุดรธานี ก็อัพเดตตำแหน่งใหม่ให้อุ๊งอิ๊งเป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” กุศโลบายเล่นคำให้คนจดจำได้ทั้งประเทศ แต่ที่ชัดเจนคือตำแหน่งนี้ใหญ่กว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะขนาดน.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังต้องโค้งคำนับให้ แน่นอนว่าสเต็ปต่อไปคงไม่แคล้วเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยเป็นแน่
อย่างไรก็ตามหลังอุ๊งอิ๊งเปิดตัวเล่นใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยแบบเอิกเกริก เรียกว่าตั้งแต่ไก่โห่ก่อนเวลาอันควร งานนี้เลยกลายเป็นการเรียกแขกไปโดยปริยาย ที่สุดอุ๊งอิ๊งก็เลยกลายเป็นเป้านิ่งถูกสารพัดฝ่ายตรงข้ามโจมตี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเรื่องโกงข้อสอบตอนสอบเอ็นทรานซ์ ทั้งเรื่องวุฒิภาวะ คุณวุฒิ วัยวุฒิ ความเป็นผู้นำ ทั้งการถูกเปรียบเปรยว่าอนาคตจะเข้ามาเป็นทายาทอสูร พาพ่อปลับบ้านแบบเท่ห์ๆ ตามที่ทักษิณประกาศไว้ว่าจะกลับไทยพ.ศ.นี้ และจะกระซิบบอกอุ๊งอิ๊งคนเดียว การถูกปรามาสว่าหากมีอำนาจหรือถึงขั้นโชคดีพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง อุ๊งอิ๊งได้เป็นนายกฯไม่แคล้วต้องทำเรื่องนิรโทษกรรมแบบสุดซอยยุ่งเหยิงวุ่นวายกันไปอีก ฯลฯ หลังเห็นกระแสต้านอุ๊งอิ๊งโจมตีหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอย่างรุนแรงหลายทิศหลายทางเพื่อสกัดดาวรุ่ง บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างออกโรงออกมาช่วยทายาทโทนี่ว่าที่นายกฯเพื่อไทยกันจ้าละหวั่น แม้กระทั่ง “สารวัตรประเทศไทย” อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ยังต้องลุกจากบ้านบางบอนมาแถลงข่าวปกป้องอุ๊งอิ๊งที่พรรคเพื่อไทย จวกผู้ใหญ่อย่ารังแกเด็กเพราะทนดูไม่ได้ที่ลูกเจ้านายถูกอัดแหลกจากรอบทิศ
ฝ่ายทักษิณดูเหมือนนกรู้ว่ากระแสอุ๊งอิ๊งได้รับการตอบรับดีเกินคาดเลยพาลกังวลว่า ดีเด่นจะเป็นภัยก่อนเวลาอันควร เพราะศัตรูคู่อาฆาตก็หาช่องกฎหมายเอาผิดฟันซ้ำลูกสาวเจ้าของคอกอยู่แล้ว พลาดเมื่อไหร่มีหวังเสร็จ ล่าสุดเจ้าของคอกเลยต้องรีบออกมาผ่อนกระแสลูกสาว ไม่ให้ดังเร็วเกินไปกลัวจะร่วงก่อนขึ้นเวทีจริง โดยพูดใน CARE Talk x CARE ClubHouse ตอน มองเมืองดูไบ ใส่ใจกรุงเทพฯ ถึงตัวอยู่ไกล แต่ใจยังคิมิโนโตะ ยืนยันว่าอุ๊งอิ๊งยังไม่ลงการเมืองเต็มตัว เพราะ 1.ยังไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค 2. ยังไม่รู้ว่าจะเล่นการเมืองหรือไม่ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือเปล่า พร้อมสับแหลกพวกผู้นำแต่นิสัยขี้อิจฉา ” สมมุติเขาเป็นแคนดิเดตจริงๆ แล้วเกิดเป็นขึ้นมาจริง ประชาชนเกิดเลือกแล้วได้เป็นจริง ถามว่า กลัวชะตากรรมเหมือนผม กับคุณปูไหม ผมว่าวันนี้ต้องถามประชาชน 16 ปีที่ผ่านมา ช้ำพอหรือยัง ระบบพังไป แล้วเศรษฐกิจพังไป ครอบครัวพังไป เป็นหนี้เป็นสินมหาศาล จากการที่ล้มลุกคลุกคลาน จากการที่ปฏิวัติแล้วปฏิวัติอีก ถามว่าประชาชนเข็ดไหม ถ้าไม่เข็ดก็ดี มีอีกก็ไม่เป็นไร ผมมีบ้านอีกหลายประเทศ ไม่เป็นไร แต่ถ้าสมมุติว่า ประชาชนเข็ด นักปฏิวัติก็จะได้เข็ดสักที” ทักษิณดักคอทหารพร้อมปรามประชาชนเข็ดหรือยังกับการปฏิวัติ เลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นเมื่อไหร่ยังไม่รู้ แต่เชื่อแน่ว่าอุ๊งอิ๊งต้องเจอด่านหินๆรับน้องแรงๆอีกหลายยก เพราะเลือกตั้งเที่ยวหน้าเดิมพันมันสูงลิ่ว ชนิดเขย่าฟ้าสะเทือนแผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ก็แพ้ไม่ได้หากต้องการจะปกป้องบ้านเมือง ทักษิณก็ต้องชนะให้ได้สถานเดียวถ้าคิดจะกลับบ้านมาตายรัง
///////////////