"ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด" ผลศึกษา 2565 ไอเวอร์เม็กติน ไม่มีประสิทธิภาพลดเข้ารักษาตัวใน รพ. เปิดทางหันไปทุ่มเทค้นคว้าและพัฒนาแนวทางรักษาอื่น ๆ ดีกว่า
ข่าวที่น่าสนใจ
การศึกษา “ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด” ฉบับดังกล่าวเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ นิว อิงแลนด์ (New England) เมื่อวันพฤหัสบดี (31 มีนาคม 2565) โดยเป็นผลลัพธ์จากการทดลองแบบปกปิดข้อมูลสองทาง (Double-blind) ในกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 3,515 ราย
ผู้ป่วย 679 ราย จำนวน 2 กลุ่ม ที่มีอาการของโรคโควิด-19 นานถึง 7 วัน และมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้โรคลุกลามอย่างน้อยหนึ่งปัจจัย ถูกสุ่มให้รับประทานยาไอเวอร์เม็กติน วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน หรืออาจได้รับยาหลอก
นักวิทยาศาสตร์จากเซอร์ทารา (Certara) บริษัทชั้นนำด้านการจำลองทางชีวภาพ และอดีตนักวิจัยของมหาวิทยาลัยโมนาช ศาสตราจารย์ เครก เรย์เนอร์ ซึ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์มการทดลองนานาชาติ ทูเกเธอร์ คลินิคัลไทรอัลส์ (TOGETHER ClinicalTrials) เผยกับ สำนักข่าวซินหัว ว่า การศึกษาพบการรักษาด้วยยาไอเวอร์เม็กตินในกลุ่มผู้ป่วยนอกที่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ไม่ได้ลดความจำเป็นของการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
“การทดลองแบบปกปิดข้อมูลสองทางมีความสำคัญ โดยช่วยรับประกันว่าผลลัพธ์นั้นเป็นจริง และไม่ได้รับผลกระทบจากการปัจจัยอื่น เนื่องจากทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลไม่ทราบถึงการแทรกแซง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการขจัดอคติที่อาจเกิดขึ้น” เรย์เนอร์ ระบุ
ทั้งนี้ ข้อมูลอันผิดพลาดเกี่ยวกับยาไอเวอร์เม็กตินนั้นแพร่หลายเป็นวงกว้าง หลังจากมีการพบว่ายาตัวนี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ในห้องปฏิบัติการ ทว่าปัจจุบันไม่มีหลักฐานทางคลินิกใดที่บ่งชี้ว่ามันสามารถฆ่าเชื้อไวรัสฯ ในร่างกายมนุษย์ได้
เรย์เนอร์ ทิ้งท้ายว่า การศึกษาข้างต้นจะช่วยให้เหล่านักวิทยาศาสตร์หันไปทุ่มเทเวลาและกำลังกับการค้นคว้าและพัฒนาแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ที่มีศักยภาพอื่น ๆ มากกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง