“ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด” 2565 ไอเวอร์เม็กติน ข้อมูลอันผิดพลาด

"ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด" ผลศึกษา 2565 ไอเวอร์เม็กติน ไม่มีประสิทธิภาพลดเข้ารักษาตัวใน รพ. เปิดทางหันไปทุ่มเทค้นคว้าและพัฒนาแนวทางรักษาอื่น ๆ ดีกว่า

“ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด” ไอเวอร์เม็กติน (Ivermectin) ยากำจัดพยาธิในคนและสัตว์ ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ในห้องปฏิบัติการ เป็นข้อมูลแพร่หลายไปในวงกว้าง แต่ล่าสุด TOP News มีข้อมูลใหม่ ผลการศึกษาจากคณะนักวิจัยนานาชาติและ ออสเตรเลีย พบ ไอเวอร์เม็กติน ไม่มีประสิทธิภาพลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจาก โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

ข่าวที่น่าสนใจ

การศึกษา “ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด” ฉบับดังกล่าวเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ นิว อิงแลนด์ (New England) เมื่อวันพฤหัสบดี (31 มีนาคม 2565) โดยเป็นผลลัพธ์จากการทดลองแบบปกปิดข้อมูลสองทาง (Double-blind) ในกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 3,515 ราย

ผู้ป่วย 679 ราย จำนวน 2 กลุ่ม ที่มีอาการของโรคโควิด-19 นานถึง 7 วัน และมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้โรคลุกลามอย่างน้อยหนึ่งปัจจัย ถูกสุ่มให้รับประทานยาไอเวอร์เม็กติน วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน หรืออาจได้รับยาหลอก

นักวิทยาศาสตร์จากเซอร์ทารา (Certara) บริษัทชั้นนำด้านการจำลองทางชีวภาพ และอดีตนักวิจัยของมหาวิทยาลัยโมนาช ศาสตราจารย์ เครก เรย์เนอร์ ซึ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์มการทดลองนานาชาติ ทูเกเธอร์ คลินิคัลไทรอัลส์ (TOGETHER ClinicalTrials) เผยกับ สำนักข่าวซินหัว ว่า การศึกษาพบการรักษาด้วยยาไอเวอร์เม็กตินในกลุ่มผู้ป่วยนอกที่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ไม่ได้ลดความจำเป็นของการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด
แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรการแพทย์อินโดนีเซียสวมชุดป้องกันขณะเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อตรวจโรคโควิด-19 ในจังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย วันที่ 24 ก.ย. 2020

“การทดลองแบบปกปิดข้อมูลสองทางมีความสำคัญ โดยช่วยรับประกันว่าผลลัพธ์นั้นเป็นจริง และไม่ได้รับผลกระทบจากการปัจจัยอื่น เนื่องจากทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลไม่ทราบถึงการแทรกแซง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการขจัดอคติที่อาจเกิดขึ้น” เรย์เนอร์ ระบุ

ทั้งนี้ ข้อมูลอันผิดพลาดเกี่ยวกับยาไอเวอร์เม็กตินนั้นแพร่หลายเป็นวงกว้าง หลังจากมีการพบว่ายาตัวนี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ในห้องปฏิบัติการ ทว่าปัจจุบันไม่มีหลักฐานทางคลินิกใดที่บ่งชี้ว่ามันสามารถฆ่าเชื้อไวรัสฯ ในร่างกายมนุษย์ได้

เรย์เนอร์ ทิ้งท้ายว่า การศึกษาข้างต้นจะช่วยให้เหล่านักวิทยาศาสตร์หันไปทุ่มเทเวลาและกำลังกับการค้นคว้าและพัฒนาแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ที่มีศักยภาพอื่น ๆ มากกว่า

ยาฆ่าพยาธิ VS โควิด
แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนรอรถรางในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย วันที่ 30 มี.ค. 2022

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ภูมิธรรม" ลงพื้นที่เชียงราย วางศิลาฤกษ์ สร้าง "สะพานร่วมใจ 3 อำเภอ" ย้ำรัฐบาล เร่งแจก ดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจ
"ภูมิธรรม" ล่องเรือตรวจพื้นที่ ซีลชายแดนเชียงราย ป้องกันปราบปรามยาเสพติด-สิ่งผิดกฎหมาย
"อนุทิน" มอบปลัด มท. คาดโทษสูงสุด นอภ.กระบี่ เรียกเงินรับเหมา ให้ออกราชการก่อนได้ พร้อมสั่งสอบสวนวินัย
“จตุพร” กร้าว! ประกาศบุกทำเนียบฯ 21 ม.ค.นี้ ยื่นประณาม ปมชั้น 14
เปิดข้อมูลใหม่ "กล่องดำ" เครื่องบิน "เชจู แอร์" หยุดทำงาน 4 นาที ก่อนพุ่งชนกำแพง 
ยูเครนเปิดภาพทหารเกาหลีเหนือถูกจับเป็นเชลย
"หมอเหรียญฯ"เดินหน้าเต็มสูบ พัฒนาศูนย์โรคมะเร็งนานาชาติ เปิดรายชื่อคลินิก ยกเลิกเป็นรพ.แม่ข่าย ผลพวงสปสช.เหนียวหนี้
"นายกฯอิ๊งค์" ลุยปราศรัยหาเสียง เลือกตั้ง นายก อบจ.นครพนม มวลชนคนเสื้อแดงแห่ต้อนรับ
"รองโฆษกฯ" เผยรบ.โชว์ผลปราบอาชญากรรมปี 67 น่าพอใจ จับกุมได้ 93%
“ธรรมนัส” รุดประสานเวียดนาม ส่งตัวหนุ่มไทยป่วยหนัก กลับมารักษา ล่าสุดถึงดอนเมืองแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น