เมื่อวันที่ (31 มีนาคม)ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางวีดีโอคอล กับนายณัฐพล ปิยะนันทกุล อายุ 38 ปี อาชีพ ผู้โพสต์คลิปลงโซเชี่ยล ได้เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้(30 มี.ค.65)ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.ขณะที่ตนขับรถมาติดไฟแดงที่สี่แยกแคราย ได้มีชายวัยรุ่นเดินเข้ามาเช็ดกระจกหน้ารถ ตนจึงได้ก้มหาเหรียญเพื่อจะให้เป็นค่าตอบแทน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าชายวัยรุ่นดังกล่าวได้ใช้นำ้ยาของเขาละเลงที่กระจกรถจนสกปรกไปหมด เลยเปิดประตูลงมาบอกเขาว่า ให้กลับมาทำให้สะอาดแต่ชายวัยรุ่นพูดสวนกลับมาว่าอยากตายเหรอ พร้อมทำท่าทางจะชักอาวุธออกมาจากเอว ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนรถและรีบล๊อคประตูรถทันที่พร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ191 โดยจอดรถรออยู่ที่เลนขวาสุด สักครู่ชายวัยรุ่นดังกล่าวได้ขี่รถจยย.วนกลับมาเคาะกระจกที่รถตนพร้อมกับกวักมือเรียกให้ตนขับรถตามไป แต่ตนเองก็ไม่ได้ตามไป
ตร.รวบตัวแล้ว หนุ่มเช็ดกระจกแยกเเคราย หัวร้อน ขู่ทำร้าย
ข่าวที่น่าสนใจ
หลังเกิดเหตุได้นำคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์เตือนภัยทางโซเชี่ยล จนทราบว่ามีคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้หลายรายเช่นกัน หลังจากนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวรตามตัวชายวัยรุ่นดังกล่าวมาตักเตือนเรื่องการกระทำพฤติกรรมแบบนี้และมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป
ต่อมาเวลา 12.00 น.พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังชุดสืบสวนได้เชิญตัวนายอนุชิต บรรทึก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.7 ต.บางคูรัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ขณะกำลังเดินขายพวงมาลัยและเช็ดกระจกบริเวณแยกแคราย มาสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายอนุชิต ให้การรับสารภาพว่า เป็นชายคนเดียวกับในคลิปที่ผู้เสียหายถ่ายเอาไว้ ซึ่งตนมีอาชีพขายพ่วงมาลัยและเช็ดกระจกรถที่สี่แยกนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว วันเกิดเหตุประมาณ 12.00 น.ผู้เสียหายได้ขับรถเข้ามาจอดติดไฟแดงที่สี่แยกตนจึงเดินไปเช็ดกระจกรถให้เพื่อหวังได้เงิน แต่เมื่อเช็ดกระจกรถเสร็จผู้เสียหายกลับทำท่าโบกมือไล่ ทั่งที่ก่อนจะเช็ดกระจกเขาก็เห็นว่าตนมาเช็ดกระจกรถให้ ตนจึงพูดไปว่าถ้าไม่ให้เช็ดก็น่าจะบอกกันดีๆแต่พี่เขาก็ทำท่าทางไม่พอใจเปิดประตูลงจากรถมาพูดว่า มาลบเลยๆ เป็นจังหวะเดียวกันที่สัญญาณไฟเป็นสีเขียวพอดี ตนจึงข้ามกลับมาที่ริมถนนแต่ผู้เสียหายก็ไม่ยอมขับรถออกไปทำให้รถติดมากตนจึงขึ้นรถจยย.ขับเข้าไปกวักมือมือบอกว่าให้ไปได้แล้ว หลังจากนั้นเขาถึงจะขับรถออกไป ตนยืนยันว่าวันเกิดเหตุไม่ได้มีอาวุธอะไรติดตัวไปแต่อย่างใด ก็อยากจะขอโทษทางผู้เสียหายที่ทำให้รู้สึกไม่ดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายนายอนุชิตแต่ไม่พบสารเสพติด ก่อนจะแจ้งข้อหาก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ มีโทษปรับ 1,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง