“สนธิญาณ” ย้ำท็อปนิวส์ลุยช่อง 5 ต่อ ยันปัญหาเกิดจากการสื่อสารภายในทบ.

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น ตนย้ำว่าเป็นไปตามที่ททบ.5แถลง ซึ่งเป็นเรื่องภายในของกองทัพบก เป็นเรื่องการสื่อสาร เรื่องนโยบาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าวของบริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย ซึ่งมีทีมของท็อปนิวส์เข้าไปดำเนินการ แต่มาจากความไม่ชัดเจนในการสื่อสาร จนนำมาสู่การตัดสัญญาณ เมื่อคุณอัญชะลี ไพรรีรัก รายงานข่าวเที่ยงททบ. 5 ประเด็นคือ ในแง่ของการตัดสัญญาณถือว่าเป็นการลงโทษอย่างรุนแรง ทางท็อปนิวส์ได้แจ้งบริษัท กาแลคซี่ ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะกระทบกระเทือนในแง่อุดมการณ์ของการทำงาน เราไม่อยากจะทำต่อ บริษัท กาแลคซี่ ก็พยายามพูดจาโน้มน้าว แต่ตนก็เรียนไปว่าไม่ได้ ปรึกษากับน้องๆทุกคนแล้ว บริษัท กาแลคซี่ ก็ยอมรับสภาพ ทำหนังสือไปขอเลิกสัญญากับช่อง 5 ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นข่าวขึ้น เราก็ยืนยันจุดยืนของเรา คุณอัญชะลี ก็ไปแสดงความรู้สึกผ่านโซเชียลมีเดีย โลกข่าวสารก็กระจายออกไป ในระหว่างนั้นการพูดคุยกับพลเอกรังษีก็เป็นไปด้วยดีโดยตลอด แต่เมื่อมีคำสั่งของทางกองทัพบกออกมาในการแต่งตั้งโยกย้าย พลเอกรังษีไปสู่ตำแหน่งใหม่ ตนได้รับการประสานจากกองทัพบกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องการไปจำกัดขอบเขตของข่าวสารแต่อย่างใด กองทัพบกได้แจกแจงให้ฟังในรายละเอยดอย่างชัดเจนต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และก็ได้รับคำยืนยันว่าพลเอกณรงค์พันธ์ ได้รับทราบเรื่องนี้อย่างละเอียด ยังมีวัตถุประสงค์ในการที่จะร่วมงานกับทีมงานของท็อปนิวส์ต่อไป และเพื่อไม่ให้เกิดคำครหา เช่น การที่ฝ่ายค้านเอาไปอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ทำสัญญาตรงกับท็อปนิวส์โดยเปิดเผยไปเลย ตนต้องใช้คำว่าขอบพระคุณผบ.ทบ.เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้ความเชื่อมั่นในการทำงานของท็อปนิวส์ ตั้งแต่เราเข้าไปรายงานข่าวไม่เคยล้ำเส้น ไม่เคยเสนอข่าวที่บิดเบือน เสนอข่าวสองด้านตลอดมา เพียงแต่สองด้านนั้น มันเป็นความจริงที่บางฝั่งบางฝ่ายอาจจะรับไม่ได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่ทำให้ท็อปนิวส์ได้ทำงานต่อไปกับททบ.5และกองทัพบก