“อนุทิน” ขอโทษปชช.ปลูกกัญชา 1ต้นถูกจับ ย้ำปลดพ้นยาเสพติดมีผลมิ.ย.นี้

อนุทิน ขอโทษปชช.ปลูกกัญชา 1ต้นถูกจับ ย้ำปลดพ้นยาเสพติดมีผลมิ.ย.นี้ ลุยสร้างความเข้าใจกัญชากัญชงทุกมิติ

วันนี้ (1 เมษายน 2565) ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 7 โดยมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ เอกชน อสม.และประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายอนุทินกล่าวว่า นโยบายกัญชาทางการแพทย์เริ่มต้นมาตั้งแต่ที่พรรคภูมิใจไทยประกาศไว้กับประชาชน เป็นคำสัญญาว่า ถ้าเรามีโอกาสทำงาน สิ่งที่เราเคยพูด ต้องทำ และต้องทำให้สำเร็จ ขอขอบคุณทางบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขที่ร่วมกันผลักดันจนกัญชาได้ปลดออกจากความเป็นยาเสพติดแล้ว ทั้งในประมวลกฎหมายยาเสพติด และประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เราใช้เวลา 3 ปี ผลักดันเรื่องนี้มาไกลมาก เริ่มก้าวแรกจากการใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ มีผู้ป่วยได้รับการรักษานับแสนราย จากการไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลตามที่ต่างๆ ได้เห็นการใช้น้ำมันกัญชาในการรักษาผู้ป่วยจากหลากหลายอาการ ผลของการใช้การนำกัญชาโรคลมชัก โรคพาร์กินสัน ภาวะคลื่นไส้และอาเจียนจากยาเคมีบำบัด นอนไม่หลับ ที่ผู้ป่วยและญาติเล่าว่าการใช้กัญชาสามารถเสริมการรักษาแผนปัจจุบันได้อย่างดี ช่วยให้คุณภาพชีวิตดี ยิ่งในบางรายลดการใช้ยาแผนปัจจุบันราคาแพงที่ต้องเสียเงินเพิ่มได้ อย่างไรก็ตาม การใช้กัญชาจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลรักษาโดยแพทย์ แพทย์แผนไทย หรือแพทย์พื้นบ้านที่มีใบอนุญาตในการสั่งจ่าย
นายอนุทิน กล่าวว่า เป้าหมายที่สองคือการผลักดันให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจของชุมชน ต้องขอขอบคุณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาที่ทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในการปรับเปลี่ยนข้อกฎหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการปลูกและต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น มีการจัดทำแนวทางการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง อำนวยความสะดวกให้เกษตรกร และผู้ประกอบการดำเนินการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันเรามีวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชา 400 กว่าแห่ง ปลูกกัญชง 1,800 กว่าแห่ง ที่ได้รับอนุญาตและมีผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชงออกสู่ตลาดอย่างกว้างขวาง ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างเงินทั้งในระดับครัวเรือน วิสาหกิจชุมชน และระดับประเทศกัญชาสามารถพลิกโฉมให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในภาพรวมของ ประเทศ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ปัญหาตอนนี้คือเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้น กัญชาได้ถูกปลดออกไปจากความเป็นยาเสพติดแล้ว และจะบังคับใช้ในช่วงวันที่ 8-9 มิถุนายนนี้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้น นี่คือช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นช่วงที่หลายๆ ฝ่ายเกิดความสับสน กระทั่งมีการจับชาวบ้านที่ปลูกกัญชา 1 ต้นไว้รักษาตนเอง ซึ่งผมในฐานะตัวแทนรัฐบาลต้องขอโทษด้วย” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายกัญชาจะมีความสมบูรณ์ในเดือนมิถุนายน ก่อนจะถึงเวลานั้น หากต้องการจะปลูก ให้รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนไปก่อน และเมื่อถึงเวลานั้น ขอให้ประชาชนใช้กัญชาในทางที่ถูกต้อง อย่าให้กัญชาต้องวนกลับไปที่จุดเดิม เราสามารถช่วยกันได้
นายอนุทินกล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 7 ได้ขับเคลื่อนกัญชาเสรีทางการแพทย์อย่างครบวงจร วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ มีการนำกัญชา กัญชง มาต่อยอดทางธุรกิจด้วยการใช้จุดเด่นของอัตลักษณ์อีสาน เช่น อาหารพื้นถิ่นที่มีส่วนผสมจากกัญชา อาทิ น้ำปลาร้าปรุงรสผสมใบกัญชา น้ำพริกกัญชา ดักแด้ทอดกรอบผสมใบกัญชา น้ำมัลเบอร์รี่ผสมใบกัญชา ผลิตภัณฑ์เสริมความงามขัดพอกและบำรุงผิวจากเมล็ดกัญชง ที่น่าสนใจคือ การนำผลิตภัณฑ์กัญชา- กัญชง ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจสปาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว “นวดอีสานขิดเส้น” ภายใต้แนวคิดนวดกันชง ดื่มกัญชา ในสปาอีสาน ช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายและผ่อนคลายยิ่งขึ้น นับว่าช่วยต่อยอดธุรกิจและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 7 ได้เป็นอย่างดี

 

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงธารณสุข กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 7 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ได้ขับเคลื่อนงานกัญชาอย่างเข้มแข็ง มีพื้นที่สำหรับปลูกกัญชา-กัญชง ถึง 160,463 ตารางเมตร เป็นกัญชา 57 แห่ง และกัญชง 114 แห่ง มีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการผลิตยาจากกัญชาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร คือ โรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลพล จ.ขอนแก่น ส่วนคลินิกกัญชาทางการแพทย์ มีการเปิดให้บริการในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในเขตสุขภาพรวม 74 แห่ง หรือ 96.1% รพ.สต. 9 แห่ง และยังมีโรงพยาบาลเอกชนเปิดให้บริการอีก 4 แห่ง ช่วยทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยากัญชาทั้งแผนไทย แผนปัจจุบันได้สะดวกขึ้น เฉพาะเดือนมีนาคม 2565 โรงพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 7 จ่ายสารสกัดกัญชาสำหรับการรักษา 360 ขวด จ่ายยาตำรับกัญชาแผนไทย เช่น ตำรับศุขไสยาศน์ ตำรับทำลายพระสุเมรุ ฯลฯ รวม 102,787 หน่วย และมีผู้ป่วยระยะประคับประคองที่ได้รับยากัญชาทั้งหมด 125 คน ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น