16 มิ.ย. 2564 สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อม นายสมชาย และนางเพชรรัตน์ อุตมะวณิชย์ เจ้าของตึกย่านสวนมะลิ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ผอ.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จากกรณีที่ถูกเจ้าของอาคารใกล้เคียงใช้ช่องว่างกฎหมายกลั่นแกล้ง จนทำให้เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ใช้คำสั่งศาลปกครองรื้อถอนอาคาร 6 ชั้น ของทั้ง 2 คน
เนื่องจากอาคารดังกล่าว ยื่นขออนุญาตก่อสร้างตั้งแต่ปี 2507 เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น แต่การก่อสร้างสร้างเป็น 6 ชั้นทั้ง 33 คูหา อาคารทั้งหมดปลูกสร้างเสร็จก่อนประกาศใช้พ.ร.บ.ฯ ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 จึงต้องบังคับตามพ.ร.บ.ฯ ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ซึ่งระยะเวลาผ่านมาเกือบ 60 ปี ไม่มีปัญหา แต่มาเกิดปัญหาเมื่อนายสมชายและภรรยาซื้ออาคารหลังดังกล่าวตอนปี 2547 และมีคดีความฟ้องร้องเก่าอยู่
นายอนันตชัย เปิดเผยว่า คดีนี้มีคำสั่งศาลฎีกา ให้มีการแก้ไขเกี่ยวกับลักษณะอาคาร ส่วนที่มีการต่อเติมดัดแปลงโดยไม่ต้องทุบ รื้อถอน คือ แก้ไขในเอกสาร แต่ฝ่ายผู้ร้องไม่ยอมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง จนกระทั่งศาลปกครองมีคำสั่งให้รื้อถอนและปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
แต่จากการตรวจสอบเนื่องจากคำสั่ง รื้อถอนของสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ศาลฎีการะบุว่าเป็นการออกคำสั่งข้ามขั้นตอนจึงทำให้คำสั่งดังกล่าวนั้นออกโดยมิชอบ
วันนี้นายอนันตชัยจึงพาผู้เสียหาย เข้ามายื่น ร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่สามารถปฏิบัติได้ กรณีถ้าคำสั่งของ 2 ศาลไม่ตรงกันแบบ ให้ยึดตามคําสั่งของศาลฎีกาเนื่องจากมีการลงพื้นที่เดินเผชิญสืบครบถ้วนทุกมิติแล้ว
ประกอบกับคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ที่สั่งให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ของสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายแต่เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวนั้นออกมาโดยไม่ชอบจึงไม่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติตาม และการรื้อถอนอาคารที่มีโครงสร้างลักษณะนี้ จะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าการแก้ไข้ในเอกสาร