พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการยักยอกเงินจากบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดสาขา หลังจาก สมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพ ว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมีบุคคลต้องสงสัยลักทรัพย์เงินของวัด จึงสืบสวนสอบสวน ก่อนพบความผิดปกติ จึงขออำนาจศาลออกจับบุคคลรายดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และจะดำเนินการตรวจสอบให้ครบทุกมิติ เบื้องต้นขณะนี้ยังพบผู้กระทำผิดเพียงแค่รายเดียว
เจอเพิ่มอีก ลูกศิษย์ “สมเด็จพระวันรัต” ยักยอกเงินวัด จ.ตราด 2 แห่ง กว่า 100 ล้าน ด้านผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผย ทรัพย์สินบางส่วนถือครองโดยบุคคลอื่น
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับความเสียหายเบื้องต้นพบว่า มีหลายวัด เป็นวัดสาขา ประมาณ 3 วัด อยู่ในภาคกลาง และ ภาคตะวันออก มูลค่าหลักร้อยล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินของวัด ที่จะนำไปใช้บูรณะซ่อมแซม หรือ สร้างวัด ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่า เป็นการให้โดยเสน่หา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากค่อนข้างขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่มีอยู่ จึงต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ส่วนทรัพย์สินต่างๆ ขณะนี้ สามารถติดตามกลับคืนมาได้เยอะพอสมควร อาทิ รถยนต์หรู และเงินสด
ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยอีกว่า ทรัพย์สินบางของผู้ต้องหาเป็นการถือครองโดยบุคคลอื่น หรือบุคคลใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีเจตนาให้การข่วยเหลือยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินด้วยหรือไม่ ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขอให้รีบนำกลับมาคืน ไม่เช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีฐานความผิด ”ฟอกเงิน” ส่วนยอดเงินความเสียหายของคดีดังกล่าวนั้น คาดว่ามีมากกว่า 190 ล้านบาท
นอกจากมีรายงานว่า จากการตรวจสอบเชิงลึก ในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้ต้องหายังได้กระทำผิดในลักษณะเดียวกัน ที่วัดสาขาในพื้นที่ จ.ตราด อีก 2 วัด คือ วัดรัตนวราราม อำเภอบ่อไร่ และ วัดคีรีวิหาร โดยเป็นเงินงบประมาณจัดสร้างวัดรัตนวราราม กว่า 80 ล้านบาท และ งบจัดสร้างโรงเรียนวัดคีรีวิหาร อีกกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-