วันที่ 5 เมษายน 2565 เวลา 13.30 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ฐากูร นัทธีศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบงานจราจร ได้ประชุมบูรณาการ เตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเชิญหน่วยงานตำรวจและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัด (ภาคอีสานตอนล่าง)
เข้าร่วมประชุมหารือ และมีการประชุมทางไกลผ่านจอภาพร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดพื้นที่ติดต่อ ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัด สระบุรี, ลพบุรี,ปราจีนบุรี, สระแก้ว และขอนแก่น เพื่อเตรียมความพร้อมและร่วมกัน กำหนดมาตรการการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนในช่วงการเดินทางวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2565
ทั้งนี้ ส่วนมาตรการอื่น มีดังนี้
ด้านการอำนวยความสะดวกจราจร
1) สำรวจถนนที่ชำรุดและแจ้งแขวงทางหลวงจังหวัดเพื่อซ่อมแซม ส่วนถนนที่มีการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จให้หยุอดำเนินการ และคืนพื้นผิวจราจรก่อนวันที่ 8 เมษายน นี้ 2) จุดเสี่ยง จุดอันตราย เช่น ถนนที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ รวมถึงบริเวณก่อสร้างหรือซ่อมแซมถนนให้ติดตั้งไฟส่องสว่างหรือเสายางพาราสะท้อนแสง ติดตั้งปัจยเดือน ป้ายสัญญาณไฟ หรือสัญญาณไฟกระพริบ ให้ชัดเจน เพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง
3) ให้สถานีตำรวจทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ในการร่วมกันจัดการจราจรบริเวณด้านหน้าและภายในปั้มน้ำมัน โดยการจัดพนักงานและเครื่องอ่านบัตร Fleet Card เพิ่มเติม จัดที่จอดรถให้เพียงพอ
4) ร่วมกับตำรวจทางหลวงเตรียมแผนเปิดช่องทางเดินรถพิเศษ (Reversible Lane) ในจุดที่มีรถติดสะสมจำนวนมาก
5) การร่วมกันจัดการจราจรพื้นที่เขตติดต่อ ดังนี้
5.1 ตำรวจภูธรภาค 1 ระหว่าง สภ.มวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กับ สภ.กลางดง จังหวัดนครราชสีมา และ สภ.ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี กับ สภ.หินตาด จังหวัดนครราชสีมา
5.2 ตำรวจภูธรภาค 2 ระหว่าง สภ.วังขอนแดง อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี กับ สภ.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา และ สภ.ตาพระยา จังหวัดสระแก้ว กับ สภ.โนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ในบริเวณช่องเขาตะโก
5.3 ตำรวจภูธรภาค 4 ระหว่าง สภ.พล จังหวัดขอนแก่น กับ สภ.บัวลาย จังหวัดนครราชสีมา และ สภ.ช่องสามหมอ จังหวัดชัยภูมิ กับ สภ.โคกโพธิ์ชัย จังหวัดขอนแก่น
6.มาตรการสำคัญที่เพิ่มเติม คือ การเปิดใช้ถนนมอเตอร์เวย์ (AM 6 จากเดิมระยะทาง 36 กิโลเมตร ถึง อ.สีคิ้ว จะเพิ่มระยะทางเป็น 64 กิโลเมตร ถึง อ.ขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา คาดว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้นและจะลดปัญหาการจราจรหนาแน่นในถนนมิตรภาพช่วงคลองไผ่ โดยจะมีจุดบริการบนเส้นทางมอเตอร์เวย์เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางตลอดการเดินทางทั้งขาไปและขากลับ
7) ให้ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ของตำรวจภูธรจังหวัดทุกแห่ง เป็นศูนย์ควบคุม บริหารสภาพการจราจร ในภาพรวม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนหรือประสานงานด้านการจราจรโดยเฉพาะ ในห้วงเทศกาลสงกรานต์
ด้านป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
1) ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรและจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อบังคับใช้กฎหมาย อย่างจริงจัง ในช่วงควบคุมเข้มขัน 7 วัน โดยเฉพาะข้อหาที่เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็ว ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ เป็นต้น
2) กรณีมีอุบัติเหตุจราจร ที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือผู้ขับขี่มีพฤติการณ์เชื่อว่าเมาสุรา ให้พนักงานสอบสวนตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกราย และดำเนินคดีให้ครบทุกข้อหา
3) กวดขันการเล่นน้ำสงกรานต์ในถนนที่เป็นทางเดินรถหรือการนั่งท้ายรถกระบะเล่นน้ำที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากตรวจพบให้ตักเตือนให้หยุดกระทำ หากฝ่าฝืนคำเตือนต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
4) ร่วมกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดตั้งด่านชุมชน เพื่อป้องปรามเฝ้าระวัง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 50 ปีขึ้นไป ตักเตือน ให้ขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง และประชาสัมพันธ์ให้คนในครอบครัวดูแลผู้สูงอายุให้อยู่ที่บ้าน หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการขับขี่รถในช่วงเทศกาล หากพบผู้ขับขี่รถมีพฤติกรรมน่าเชื่อว่าดื่มสุราหรือมีนเมาสุราจะถูกตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย และดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังทุกกรณี
5) สถานีตำรวจที่มีพื้นที่จัดงานสงกรานต์ให้ประชาสัมพันธ์และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมภายในงานให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMD19) โดยเคร่งครัด
ตำรวจภูธรภาค 3 จะเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระหว่างวันที่ 8 ถึง 18 เมษายน 2565 ที่ตั้ง ณ ห้องประชุม 3 กองบังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อเป็นศูนย์อำนวยการการปฏิบัติ ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสิ้น 6,116 นาย แยกเป็น
– จุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 327 จุดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3,635 นาย
– จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 115 จุด กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 900 นาย
– ชุดเคลื่อนที่เร็ว 281 ชุดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1,581 นาย
– เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ 998 เครื่อง
– เครื่องตรวจจับความเร็ว 92 เครื่อง
ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 3 ขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชนที่จะเดินทาง ได้เตรียมวางแผนเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยตรวจสอบความพร้อมของรถ ผู้ขับขี่ต้องพักผ่อนให้เพียงพองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปฏิบัติตามกฏจราจร เพื่อจะได้กลับภูมิลำเนาฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัวอย่างมีความสุข.
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา