ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ลงพื้นที่ไปยัง อ.บ่อไร่ จ.ตราด เพื่อตรวจสอบเอกสารเส้นทางการเงินที่ใช้ก่อสร้างวัดรัตนวนาราม โดยวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ได้โอนเงินที่ใช้ในการก่อสร้างวัดผ่านบัญชี นายสุรศักดิ์ อิงประสาร หรือ เสี่ยเพ่ง เจ้าของโรงโม่หินเพชรสยามศิลาตราด เมื่อวานนี้ (6 เม.ย. 65) นั้น ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่าเส้นทางการเงินของสมเด็จวันรัต ที่มีการโอนเงินมาจากธนาคารกสิกร สาขาบางลำพู แล้วส่งมาที่บัญชีโรงโม่เพชรสยามศิลาตราด เป็นเงินจำนวนมาก เพื่อนำมาใช้ในการมาก่อสร้างวัดรัตนวราราม อ.บ่อไร่ จ.ตราด มีมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปราม เร่งตรวจสอบการยักยอกเงินสร้างวัดรัตนวนาราม อ.บ่อไร่ จ.ตราด พบลูกศิษย์สมเด็จพระวันรัตอีกรายเป็นผู้รับผิดชอบการเบิกจ่ายทั้งหมด หลายครั้งไม่มีใบเสร็จมาแสดง
ข่าวที่น่าสนใจ
ฉะนั้นกองปราบฯ จำเป็นต้องตรวจสอบยอดเงินการโอนและการใช้จ่ายตรงกันหรือไม่ ซึ่งพบว่า มีความโปร่งใสและยอดการโอนตรงกัน ส่วนที่ต้องมีการโอนเงินมายังบัญชีของบริษัท เพชรสยามศิลาตราด จำกัด เนื่องจากเจ้าของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้บริจาคที่ดินให้สมเด็จพระวันรัต เพื่อก่อสร้างวัด กว่า 60 ไร่ จึงดำเนินการโอนเงินมาให้ แต่การเบิกจ่ายจะมีเจ้าอาวาสวัดและคนของสมเด็จพระวันรัตเป็นผู้ดูแลการเบิกจ่ายเงินทั้งหมด โดยการโอนในแต่ละครั้งนั้น จะมีจำนวนไม่เท่ากัน ตลอดระยะเวลา 5 -6 ปีที่ผ่านมา จำนวนการโอนมากกว่า 100 ครั้ง อีกทั้งจากการตรวจสอบทั้งต้นทางและปลายทาง ไม่พบการยักยอกเงินแต่อย่างใด เพราะมียอดตรงกัน ส่วนการที่คนสนิทสมเด็จวันรัต ยักยอกเงินจากส่วนไหนนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังอยู่ในสำนวนการสอบสวน
ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม ได้เรียกพนักงานสอบสวนในคดีเข้าประชุมเพื่อสอบถามความคืบหน้าทางคดี ว่า มีความคืบหน้าไปถึงไหนและสอบปากคำใครไปได้บ้าง รวมไปถึงสามารถตามยึดทรัพย์สินที่นายอภิรัตน์ ชยางกูร ณ อยุธยา ผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ นำเงินที่ได้จากการยักยอกไปซื้อ
ขณะที่แนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินก่อสร้างวัด และโรงเรียนในจังหวัดตราด พุ่งเป้าไปที่คนสนิทของสมเด็จพระวันรัตอีกรายหนึ่ง ที่เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งคนสนิทรายนี้ได้รับอนุญาตโดยตรงจากสมเด็จพระวันรัต เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ โดยเจ้าของโรงโม่หิน และผู้รับเหมาก่อสร้างให้ข้อมูลตรงกันว่า คนสนิทรายนี้ จะเป็นผู้ขอเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้าง อุปกรณ์ และค่าคนงาน แต่เพียงผู้เดียว และหลายครั้งคนสนิทสมเด็จพระวันรัตรายนี้ ไม่มีใบเสร็จ โดยขณะนี้ตำรวจกำลังสืบสวน เพื่อหาความเชื่อมโยงว่า คนสนิทสมเด็จพระวันรัตรายนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินที่หายไปหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-