ข่าวใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐตอนนี้ ส่วนใหญ่โฟกัสไปที่การตั้งกรรมการบริหารพรรคคนใหม่ทดแทนก๊วนเก่าที่ถูกขับออกไป โดยที่ทุกอย่างก็เป็นไปตามสูตรสำเร็จที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐวางเกมส์ไว้ คือการดึงคนของตัวเองเข้ามาเป็นแกนนำเพิ่ม เที่ยวนี้ก็ตั้ง “น้องรัก-นายทหารคนสนิท” รวม 2 คน เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วยกันทั้งคู่ ประกอบด้วย “บิ๊กอี๊ด” พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 (ตท.21) กับ “บิ๊กโย” พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทหารคนสนิท(ตท.22) ที่รู้จักกันดีเพราะเคยรับราชการใน ร.2 พัน 2 รอ. และ พล.ร.2 รอ. หนำซ้ำปัจจุบันยังนั่งเป็นอนุกรรมการฝ่ายหารายได้ของมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และอาจเรียกได้ว่าเป็นเลขาฯคนสนิทของบิ๊กป้อม จนทำให้ถูกมองว่าพล.อ.ประวิตรขยับปรับโครงสร้างรอบนี้เรียกว่า คุมพรรคพลังประชารัฐแบบเบ็ดเสร็จ โดยไม่เปิดช่องให้คนของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้ามาแตะยุ่มย่ามในพรรคได้แต่อย่างใด จนเป็นเหตุให้ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่เป็นสายตรงไทยคู่ฟ้าซึ่งบิ๊กตู่หมายมั่นปั้นมือว่าจะให้เข้ามาเป็นหูเป็นตาในพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ถูกบิ๊กป้อมใช้ไม่ถูกสั่งให้ทำอะไรต้องจำใจไขก๊อกลาออกไปจากตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ทั้งๆที่เพิ่งสมัครเข้ามาได้ไม่กี่เดือน
ปมร้อนในพรรคพลังประชารัฐยังไม่จบแค่นั้น ล่าสุดเมื่อช่วงดึก 21.49 น. ของวันที่ 4 เม.ย. ปรากฎว่า “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรคพลังประชารัฐคนใหม่สดๆร้อนๆ ได้ส่งคำสั่งศูนย์อำนวยเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ แต่งตั้ง “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค เป็นประธานยุทธศาสตร์หาเสียงร่วมกับผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ให้แก่สื่อมวลชน ต่อมาไม่นานในเวลา 00.19 น. เจ้าหน้าที่พรรคได้ส่งคำให้สัมภาษณ์ของนฤมลปฏิเสธรับตำแหน่งดังกล่าวและตำแหน่งอื่นๆ ในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ พร้อมเหตุผล อภิชัยไม่เคยมาหารือเรื่องดังกล่าวกับตนเลย นอกจากนี้ทางพล.อ.ประวิตรก็ไม่เคยมีคำสั่งหรือมีการมอบหมายใด ๆ มาให้เลย “ดิชั้นมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรค ต้องระมัดระวังในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งส.ก.อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งถึงความเหมาะสม โดยไม่ประสงค์ที่จะรับตำแหน่งดังกล่าว หน้าที่กำหนดนโยบายหาเสียง ลงพื้นที่หาเสียง และรายงานผล เป็นหน้าที่ของคุณอภิชัย ในฐานะ ผอ.ศูนย์ฯ อยู่แล้วในคำสั่งที่ลงนามโดยหัวหน้าพรรค” นฤมลแจกแจงแบบฟาดกลับ
งานนี้เลยทำให้เสี่ยโตต้องรีบยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในทันที เรื่องนี้หากคนนอกมองอาจดูเหมือนเล็กดูเหมือนไม่มีอะไรในกอไผ่ ที่อาจมองว่าเป็นปัญหาเรื่องการสื่อสารภายในองค์กรที่ไม่ประสานสอดคล้องกันให้ดี ก่อนที่จะมีการออกคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดแบบนี้ออกมาก่อน แต่ความจริงถ้าใครตามการเมืองมายาวๆ รู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องนี้มาก่อนจะรู้ดีว่าเรื่องนี้มีประเด็นมีปมให้พูดถึงกันได้หลากหลาย เพราะการออกมาปฏิเสธคำสั่งดังกล่าวของอ.แหม่มไม่ใช่เรื่องปกติที่ควรมองผ่านไป แต่มีนัยยะทางการเมืองแฝงความไม่ลงรอย และรอยร้าวใหม่ในพรรคพลังประชารัฐได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความขัดแย้งคู่ใหม่ระหว่างนฤมลกับอภิชัย ที่ขบเหลี่ยมปีนเกลียวกันแบบเต็มๆ ประการแรกนฤมลเหมือนถูกหักหน้า อย่าลืมว่าอดีตนฤมลเคยเป็นรมช.แรงงาน เคยเป็นถึง “จับกัง 2” ขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว พรรษาแก่กว่า การเมืองสูงกว่า แถมยังเคยเป็นรัฐมนตรีสายตรงป่ารอยต่อคนใกล้ชิดของบิ๊กป้อมจู่ๆจะให้มาฟังคำสั่งของเด็กใหม่เพิ่งมาอย่างอภิชัยได้อย่างไร
ประการที่สอง ก่อนหน้านี้พื้นที่กรุงเทพฯ พล.อ.ประวิตรเคยมอบหมายให้ “ผู้กองแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาฯพรรคดู แต่ร.อ.ธรรมนัสไม่มีเวลาเลยฝากเลี้ยงให้อ.แหม่มดูพื้นที่เมืองหลวงแทนรับฟังปัญหาประสานงานกับส.ส. 12 คนของกทม.แทน แต่ดูเหมือนนฤมลจะไม่เก็ตเรื่องพื้นที่เข้าไม่ถึงเรื่องชาวบ้าน งานเลยไม่เวิร์ค ยิ่งพอร.อ.ธรรมนัสถูกขับออกไป ตรงนี้ก็เลยเป็นช่องโหว่ ที่สุดพล.อ.ประวิตรเลยต้องตั้งจักรพันธ์ พรนิมิตร มาเป็นประธานภาคส.ส.กทม.แทน แบบขัดตราทัพไปก่อน พออภิชัยย้ายพรรคมาก็เลยยกตำแหน่งนี้ให้เสี่ยโตดูแล ตรงนี้ก็เลยอาจทำให้นฤมลไม่อยากเข้าไปยุ่ง ทั้งไม่ถัดทั้งไม่อยากทำ บวกลบคูณหารมีแต่ทางเข้าตัวเข้าเนื้อเต็มๆ ชนะก็เสมอตัวแต่แพ้ขึ้นมาก็ต้องรับผิดชอบไปด้วย
ประการที่สามต้องไม่ลืมว่านฤมลนอกจากจะสนิทสนมแนบแน่นกับพล.อ.ประวิตรแล้ว เจ้าตัวยังเป็นคู่ซี้คู่บัดดี้กับร.อ.ธรรมนัสชนิดแยกกันไม่ออก ยังกับปาท่องโก๋โดยเฉพาะตอนสมัยที่ยังเรืองอำนาจ อยู่แก๊งค์ 4 ช. ด้วยกัน ขณะที่ก่อนหน้านี้พรรคแรกที่อภิชัยมีข่าวว่าจะออกมาอยู่ด้วยหลังฉิ่งจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือพรรคเศรษฐกิจไทยก๊วนธรรมนัส ถึงขนาดมีข่าวว่าผู้กองแป้งว่าตัวเสี่ยโตเป็นเลขาธิการพรรคเลย แต่สุดท้ายอภิชัยก็เลือกหักดิบเลี้ยวรถตีจากพรรคเศรษฐกิจไทยมุ่งตรงไปรัชดาเข้าพรรคพลังประชารัฐแทน หลังถูกพล.อ.ประวิตรหักคอดึงเข้าพรรคแถมวางตัวให้คุมกทม. เปิดตัวด้วยการเป็นผอ.พรรคคุมการเลือกตั้งส.ก. 22 พ.ค.2565 รอบนี้เลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าตกปากรับคำกับผู้กองเรียบร้อยแต่พอถึงวันจริงวิ่งไปอยู่ค่ายซุกปีกนายพลใหญ่ที่ค่ายทหารริมถนนวิภาวดีรังสิตหน้าตาเฉย จนถูกมองว่าหักหลังผิดคำพูดกับร.อ.ธรรมนัส อภิชัยเคยทิ้งร.อ.ธรรมนัสไปแบบนี้มีหรือที่นฤมลจะช่วยงานด้วย ทั้งหลายทั้งมวลคือเหตุจูงใจที่ทำให้อ.แหม่มต้องร่อนจดหมายเที่ยงคืนเบรกหนังสือสี่ทุ่มของเสี่ยโต ชนิดนักข่าวในพรรคงงกันหมด ชาวบ้านตามข่าวกันไม่ทัน คุณมึงเล่นอะไรกัน อยู่พรรคเดียวกันทำไมไม่คุยกัน
////////////////////