“นายกฯตู่” ยันดูแลประชาชนทุกคน แม้เผชิญวิกฤตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านครับ จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่เป็นผลกระทบจากวิกฤตโควิด ต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปี และถูกซ้ำเติมด้วยความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้นอย่างมากทั่วโลก ผมและรัฐบาลมีความเป็นห่วงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำ ผู้มีปัญหาหนี้สิน และธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง จึงได้จัดให้มีการประชุมหลายครั้ง ทั้งเป็นทางการและการปรึกษาหารือนอกรอบ เพื่อหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และได้สั่งการนโยบายเร่งด่วนเพื่อบรรเทาภาระเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นให้มีผลโดยเร็วที่สุด

โดยก่อนหน้านี้ ผมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตาม 10 มาตรการด่วนเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือน ครอบคลุมประชากรกลุ่มเป้าหมายราว 40 ล้านคน ที่ผมได้เรียนแจ้งพี่น้องประชาชนไปแล้ว และในวันนี้ ผมขอแจ้งข่าวดีต่อพี่น้องประชาชนว่า จะมีการจ่ายเงินเข้าบัญชีโดยตรง เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับกลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) เบี้ยผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ (2) เงินอุดหนุนเด็ก 600 บาท (3) เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ นับว่าเป็นมาตรการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ที่หน่วยงานภาครัฐได้ดำเนินการไปแล้ว ดังนี้

1.กองทุนประกันสังคม : ลดอัตราเงินสมทบ 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.65) แบ่งออกเป็น (1) กรณี ม.33 นายจ้างและลูกจ้าง จ่ายเงินสมทบกองทุนฯ เหลือฝ่ายละ 1% จากเดิม 5% (2) กรณี ม.39 จากเดิม 9% ของฐานค่าจ้าง 4,800 บาท (เดือนละ 432 บาท) ให้เหลือ 1.9% (เดือนละ 91 บาท) ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกันตนได้ ประมาณ 1,000 -1,800 บาทต่อคน ในขณะเดียวกันนายจ้างก็มีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้นด้วย

2. กระทรวงแรงงาน : เพิ่มการจ่ายเงินสมทบให้ผู้ประกันตนขึ้น อีก 2.95% ของค่าจ้าง (ช่วง 3 เดือน พ.ค.-ก.ค.65 ที่ลดอัตราส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม) เพื่อไม่ให้กระทบการจ่าย “เงินบำเหน็จชราภาพ” แก่ผู้ประกันตนว่า 4.8 ล้านรายในอนาคต

3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) : เปิด “โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19” เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำรงชีวิตให้แก่เกษตรกร หรือลูกจ้างภาคการเกษตร วงเงินรายละไม่เกิน 10,000 บาท โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ดอกเบี้ยต่ำ 0.35% ต่อเดือน (flat rate) และปลอดการชำระต้นเงินและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก

4. กระทรวงศึกษาธิการ : จัดตั้ง “สถานีแก้หนี้ครู” 558 แห่งทั่วประเทศ มีครูได้รับประโยชน์ทันทีกว่า 460,000 คน

5. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) : ร่วมกับ 16 สถาบันการเงินจัดทำ “โครงการค้ำประกันสินเชื่อ” (Portfolio Guarantee Scheme) ระยะพิเศษ วงเงิน 90,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มลูกหนี้เดิม ที่มีสินเชื่อคงค้าง สร้างสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจและช่วยพยุงการจ้างงาน
6. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) : ตรึงดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านถึงสิ้นปี 2565 เพื่อช่วยบรรเทาภาระของผู้กู้ และกระตุ้นการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะมีผู้มาขอสินเชื่อกับ ธอส.ตลอดทั้งปี มูลค่ากว่า 240,000 ล้านบาท

และล่าสุด ผมยังมีเรื่องที่น่ายินดี ที่จะแจ้งให้ทุกคนทราบว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “มูดี้ส์” (Moody’s Investors Service) ได้ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับ “มีเสถียรภาพ” (Stable Outlook) ซึ่งเป็นมุมมองค่อนข้างเป็นบวกต่อสถานะของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิผลของนโยบายเศรษฐกิจ มาตรการเยียวยาดูแลประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด19 และความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังมองว่าใน 2-3 ปี เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจีดีพีของไทยปี 2565-2566 จะเติบโต 3.4% และ 4.8% ตามลำดับ ซึ่งการประกาศนี้ย่อมจะมีผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจไทยท่ามกลางสถานการณ์โลกที่กำลังผันผวนอย่างรุนแรงในขณะนี้

ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมมีหน้าที่จะต้องดูแลพี่น้องทุกคนในประเทศ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีความปลอดภัย ประเทศชาติสงบร่มเย็น ไม่มีวันใดที่ผมจะไม่คิดถึงหน้าที่นี้ และคิดตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม ที่ผ่านมาเราเผชิญกับวิกฤตหลายประการ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ แต่ก็สามารถแก้ปัญหาสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่างด้วยความร่วมมือกันของทุกคน และผมเชื่อมั่นว่ารากฐานที่ได้วางไว้ จะทำให้ประเทศไทยที่รักของเราก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรงครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ประชุมกพช. วอนดูราคาพลังงาน ช่วยปชช.ลดต้นทุนครัวเรือน
ราคาทองวันนี้ เปิดตลาดร่วงหนัก 500 บาท รูปพรรณขายออก 43,800 บาท
“พิชัย”รับทัพนักธุรกิจสหรัฐ USABC ชวนตั้งฐานผลิตอุตสาหกรรมใหม่
บุกรวบหนุ่มเพิ่งพ้นโทษ เปิดบ้านค้ายา ย่านบางเขน ค้นเจอยาบ้ากว่า 100 เม็ด ไอซ์อีก 4.91 กรัม
เครื่องบินขนส่งสินค้า DHL ตกปริศนา ขณะลงจอดฉุกเฉิน ไถลชนบ้านคนในลิทัวเนีย 
"พิชัย" นำทีมหารือสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน 30 กลุ่มอุตสาหกรรม ชวนขยายลงทุน ฝากช่วยไทยคุย "ทรัมป์" 2 เรื่องสำคัญ
ลุยเข้มปราบปรามยาเสพติด ไม่ถึง 2 เดือน นบ.ยส.24 ยึดได้กว่า 24 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 1 ตัน เฮโรอีน 91 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่นอีกเพียบ
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ย้ำ "แบงก์ชาติ" ต้องปลอดการเมืองครอบงำ ชี้วิกฤตศก.ปี 40 ไทยล้มละลาย เพราะนักการเมืองร่วมมือต่างชาติ
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้อาคารหอพักนักเรียน จ.เพชรบูรณ์ จนท.ระดมกำลังควบคุมเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง
"กรมอนามัย" เตือนชุมชนรอบรัศมี 5 กม. ย่านประเวศ เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าระบาด งดสัมผัสสัตว์จร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น