“สุเทพ” เปิดใจเล่าย้อน 10 เมษา 53 ปมชายชุดดำ ชี้ชัดคือใคร ซัด แกนนำ นปช. หยุดบิดเบือน

สุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดใจกับทีมข่าวท็อปนิวส์ หลังครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์ การชุมนุมคนเสื้อแดง ชี้ชัดชายชุดดำคือใคร วอนกลุ่ม นปช. หยุดสร้างวาทะกรรมบิดเบือน ความจริงก็คือความจริง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ห้สัมภาษณ์กับทีมข่าว Top News หลังอดีตแกนนำ นปช.รำลึกเหตุการณ์ 12 ปีเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553 โดยยืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธ และไม่มีชายชุดดำ

โดยหากย้อนกลับไป เมื่อในวันที่ 21 เมษายน 2558 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เดินทางเข้ามาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในขณะที่ยังบวชเป็นพระ ต่อกรณีถูกกล่าวหาสั่งการสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553  หลังจากเข้าให้ถ้อยคำต่อองค์คณะไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช. นายกล่าวว่าได้อธิบายให้องค์คณะไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในหลายประเด็น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยประเด็นสำคัญที่สุดคือ ได้นำคลิปและภาพนิ่งของกองกำลังชายชุดดำติดอาวุธซึ่งออกมาเข่นฆ่าประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นคลิปที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชนในขณะนั้น เพื่อให้เห็นชัดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ก่อเหตุร้ายแรง ทำให้เกิดความสูญเสีย ที่มีชายชุดดำปรากฎตัวขึ้นจริง และยังได้อธิบายว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ชายชุดดำมีพฤติการณ์เป็นอย่างไร ใช้อาวุธอะไร นับเป็นฝันร้ายของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ไม่เพียงเท่านั้น นายสุเทพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้อธิบายแต่ละคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการขณะนั้น ได้สั่งให้ตั้งด่านและจุดตรวจล้อมรอบพื้นที่บริเวณราชประสงค์

โดยจุดตรวจดังกล่าวตั้งอยู่กับที่ เช่น ที่ราชปรารภ ถนนพระรามสี่ และหน้าสนามกีฬาแห่งชาติ ไม่ได้เคลื่อนไปหากลุ่มผู้ชุมนุม แต่เหตุการณ์ที่มีการปะทะที่ด่านตรวจเหล่านั้นเกิดจากกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าโจมตี ซึ่งเท่าที่ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มีกลุ่มชายชุดดำเข้าโจมตี โดยกลุ่มคนดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธ มีการฝึกฝนมาอย่างดี และมียุทธวิธีปฏิบัติการคล้ายกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ

และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตโดยหนึ่งในนั้นคือ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม (ยศขณะนั้น) อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) เสียชีวิตจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.) ที่แยกคอกวัว เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2553

 

 

นอกจากนี้นายสุเทพ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ว่ามีปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. 2553 ได้ให้เจ้าหน้าที่กดดันขอคืนพื้นที่จราจร แต่ปรากฏว่าไม่ได้ผล และมีกองกำลังติดอาวุธชายชุดดำเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยพบอาวุธสงครามหลายรายการ เช่น ปืนเอ็ม 16 , ปืนอาก้า , และปืน 79

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อดีตแกนนำ นปช.ยังคงยัดเยียดให้ ศอฉ. เป็นผู้ร้าย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 และเป็นพุ่งเป้ามาที่ตัวนายสุเทพ ในฐานะอำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในขณะนั้น

โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ตนขอย้ำว่าการตัดสินใจในวันนั้นไปอย่างชอบธรรม และปฎิบัติตามกฎหมายทุกประการ และผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็มีคณะกรรมการที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลมาตรวจสอบด้วย แต่ความยากทั้งหมดก็เกิดขึ้นจากการที่มีกลุ่มคนติดอาวุธเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า อดีตแกนนำยังยืนยันไม่มีการเผาบ้านเผาเมือง นายสุเทพ กล่าวว่าการเผาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะใน กทม. แต่เกิดขึ้นต่างจังหวัดด้วย จนมีภาพการเผาศาลากลางในหลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนายสุเทพยังได้มีการอธิบายให้ผู้สื่อข่าวได้เห็นถึงการกล่าวปราศรัยของอดีตแกนนำคนสำคัญของ นปช. อย่างนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่ระบุว่า เผาเลยพี่น้อง เรารับผิดชอบเอง

และเมื่อถามว่าทุกครั้งที่ครบรอบเหตุการณ์จะมีการจัดงานรำลึกเช่นนี้ทุกปี แกนนำจะใช้วลีเดิมๆ ในการโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งโจมตีนายสุเทพ นั้น นายสุเทพ กล่าวว่าเพียงสั้นๆว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละจุดตามที่ ป.ป.ช. หรือศาลไต่สวนไว้ ก็น่าจะดำเนินการต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม และไม่ควรบิดเบือนสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น เพราะความจริงอย่างไรก็คือความจริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น