“พิธีกรสาว” หลงเชื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ อ้างเป็นผกก. สูญเงินนับล้าน

ผู้ประกาศ - พิธีกรสาว รายหนึ่ง โพสต์โซเชียลเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย หลังตกเป็นเหยื่อถูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเป็นตำรวจยศผู้กำกับ หลอกให้โอนสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท

ยังคงระบาดต่อเนื่อง สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ออกอุบายโทร.หลอกให้เหยื่อโอนเงิน แม้จะเริ่มมีคนจับทางได้ แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ยังขยันหามุกใหม่มาหลอกเหยื่อ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากตกหลุมพรางโดนหลอกกันถ้วนหน้า ล่าสุด เฟซบุ๊คพิธีกรสาวรายนี้ โพสต์ภาพเล่าเหตุการณ์ที่พบมา เพื่อแชร์เป็นประสบการณ์ ซึ่งเกิดเมื่อเช้านี้ (11 เม.ย. 65) อ้อตกเป็นเหยื่อของแก็งมิจฉาชีพที่อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองระนอง เสียเงินไป 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บจากการทำงานที่ได้มาด้วยความยากลำบาก อยากเล่าสิ่งนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการคนแบบนี้ออกไปจากสังคมไทยให้ได้

โดยเธอได้เล่าพฤติกรรมของมิจฉาชีพโทรมาแจ้งว่า เป็นสายจากศุลกากร ระบุว่าตัวเองมีวัสดุผิดกฎหมายส่งไปต่างประเทศ พร้อมกับบอกเลขพัสดุมาด้วย ตัวเองก็ยืนยันว่าไม่เคยส่งพัสดุผ่านจังหวัดระนองเลย เบอร์ที่โทรมายังอ้างด้วยว่า คุณต้นอ้อส่งวัสดุผิดกฎหมาย เกี่ยวกับยาเสพติด และการฟอกเงิน

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมามิจฉาชีพบอกว่าจะโอนสายต่อไปที่ สภ.เมืองระนอง พร้อมขู่ว่าหากตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องให้ปากคำกับตำรวจ มิจฉาชีพพยายามสัมภาษณ์เธอ ถามว่าเคยส่งข้อมูลส่วนตัวหรือบัตรประชาชนให้กับคนอื่นหรือไม่ เพราะมีคนใช้ชื่อเธอไปแอบอ้างส่งยาเสพติดไปต่างประเทศ ตลอดการสนทนาตัวเองก็ยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรแบบนี้ เขาจึงบอกว่าถ้าไม่ได้ทำจริง ก็ต้องยอมเข้าสู่กระบวนการสอบสวน เพราะมีชื่อว่าตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว

คุณต้นอ้อ จึงบอกกับมิจฉาชีพว่าเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ตัวเองก็พร้อมจะเข้าสู่การสอบสวน จากนั้นมิจฉาชีพได้วิดีโอคอลหาเธอ แต่ตัวเองเห็นหน้ามิจฉาชีพแค่แว๊บเดียว จากนั้นเขาได้ปิดใบหน้าไป จึงถามกลับไปว่าทำไมต้องปิดหน้า มิจฉาชีพบอกว่า เพราะคุณต้นอ้อเป็นผู้ต้องหา ไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรตอนนี้ และถ้าคุณต้นอ้อยืนยันว่าบริสุทธิ์จริงตำรวจจะช่วยเหลือ

ตอนนั้นยอมรับว่าตนเองสติแตก เพราะไม่รู้ขั้นตอนตามกฏหมายว่ากระบวนการต้องดำเนินการอย่างไร จึงได้ถามไปว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณเป็นตำรวจจริง เขาจึงส่งภาพบัตรข้าราชการตำรวจมาให้ดู ตรวจสอบชื่อแล้วพบว่าอยู่ใน สภ.ระนอง จริง จึงตัดสินใจคุยต่อว่าตนเองไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการใด ของก็ส่งรูปมาให้ดูว่าว่าในกระบวนการฟอกเงินมีใครบ้าง ซึ่งตนเองไม่รู้จักคนในรูปเหล่านี้เลย

หลังจากนั้น มิจฉาชีพ(ปลอมตำรวจ)บอกต้องยึดเงินอ้อไว้เพื่อเป็นของกลางก่อน เพื่อตรวจสอบกับ ปปง ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จริง เขาให้เราโอนเงินไปให้ทั้งหมดจำนวนเงินกว่าล้านบาท หมดบัญชีเลย ตอนนั้นเราคิดว่าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และให้ความร่วมมือกับตำรวจ เราจึงปฏิบัติตามคำสั่งโจร(ปลอมเป็นตำรวจ) หลังจากเขาวางหูไป ทั้งนี้ได้เก็บฐานไว้ทั้งหมด และบันทึกเสียงเพื่อส่งมอบให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น