นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ที่ไม่อยากให้ประชาชนการ์ดตก เพราะเชื้อโควิด 19 มีการแพร่กระจายได้ง่าย และมีโอกาสกลายพันธุ์ หากมีการแพร่ระบาดจนมีจำนวนที่มากขึ้น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงโรคโควิด 19 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักการศึกษา สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1-12 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการสำรวจช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พ.ย. 64 จำนวน 272,486 คน และดำเนินการสำรวจช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 5 – 31 มี.ค. 65 จำนวน 113,847 คน ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยทำการเปรียบเทียบการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ผลการสำรวจพบว่า 5 พฤติกรรมเสี่ยงโรคโควิด 19 ของคนไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น คือ
1) ไม่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทั้งอยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 4.8 %
2) ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 2.6%
3) ใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 1.5%
4) ไม่เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 – 2 เมตร มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 1.1%
5) กินอาหารร่วมกันกับผู้อื่น หรือไม่ใช้ช้อนกลางส่วนตัว มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่ม 0.6%
จากผลการสำรวจสะท้อนคนไทยการ์ดตก ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญในการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งทั้งอยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน และปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ
เน้นมาตรการ มาตรการ VUCA คือ Vaccine ฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนดUniversal Prevention ป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล COVID Free Setting มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร ATK ตรวจ ATK เมื่อมีความเสี่ยง และมาตรการ DMHTTA อย่างเคร่งครัด