นายสมาน พิมพิลา กำนันตำบลปรังเผล พร้อมสารวัตรกำนัน ผญบ และชุดรักษาความสงบประจำหมู่บ้าน(ชรบ) จับกุมนายสมชาย(เอ็ม) ไม่มีนามสกุล อายุ 20 ปี ถือบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน(รหัส0) ชาวบ้านจงอั่ว ม 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ขณะนำพาแรงงานต่างด้าวออกจากท่าน้ำหมู่บ้านหลังจากมีเรือนำมาส่ง
เหตุเกิดบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ต.ปรังเผล (ประตูแดง) ได้แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 11 คน (ญ6 ช5)ผู้ติดตาม(เด็ก)3พร้อมยึดรถจักรยานยนต์สามล้อ 1 คัน จึงได้นำตัวนายสมชาย พร้อมแรงงานต่างด้าว ขึ้นรถยนต์ออกจากจุดจับกุม ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร.ประจำจุดตรวจตำบลปรังเผล ก่อนจะทำการตรวจหาเชื้อโควิต-19 ด้วยชุด ATK เบื้องต้นพบผู้ต้องหาหญิง 1 ราย มีผลบวก จึงได้ทำการคัดแยกตัว ต่อจากนั้นจึงได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนายสมชาย ไม่มีนามสกุล (เอ็ม) ผู้นำพา รับว่าได้รับการติดจ่อจากนายหน้าในฝั่งพยาตองซู ให้พาแรงงานทั้งหมดเดินออกจากริมน้ำเพื่อมาส่งไว้บริเวณริมถนนเข้าบ้านจงอั่ว ห่างจากจุดตรวจตำบลปรังเผลประมาณ 1 กม โดยได้ค้าจ้างคนละ 200 รวมเป็นเงิน 2200 โดยตนเองทำมาแล้ว 3 ครั้ง
ทั้งนี้ปัญหาขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองในพื้นทีอำเภอสังขละบุรี เป็นปัญหาสำคัญเนื่องจากปัจจุบันมีการพบเห็นและแจ้งจากประชาชนแทบทุกวัน บางครั้งมีการข่มขู่พลเมืองดีที่คอยส่งข่าวให้เจ้าหน้าที่ รวมทั้งข่มขู่ ผู้นำชุมชนและชรบ ที่เข้าไปขัดขวางและจับกุม
ทั้งนี้ ต.ปรังเผล เป็นเส้นทางผ่านสำคัญในการขนแรงงานต่างด้าว เนื่องจากสามารถเดินทางทั้งทางบกและทางน้ำ โดยทางน้ำมีต้นทางสำคัญในพื้นที่ ต.หนองลู ก่อนที่ขบวนการจะลักลอบนำแรงงงานลงเรือในทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนจะนำขึ้นฝั่งในพื้นที่ตำบลปรังเผล เพื่อหลบการจับกุมตามด่านตรวจต่างๆ เช่นจุดตรวจรันตีและจุดตรวจตำบลปรังเปล บนถนนสาย 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ เมื่อขึ้นฝั่งแล้วจะใช้วิธีเดินเท้าออกมายังจุดนัดหมายริมถนนก่อนจะมีรถของขบวนการมารับเพื่อเดินทางต่อไปยังพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ เพื่อเดินทางต่อไปยังปลายทางที่แรงงานเหล่านั้นต้องการไปทำงาน
จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวที่จับกุมให้ข้อมูลว่าทั้งหมดเดินทางมาจากเมืองพยาตองซู ( ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ ม 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ) เมื่อมาถึงชายแดน มีคนพาเดินลัดเลาะป่ามาโดยใช้เส้นทางธรรมชาติ จนช่วงค่ำจึงเดินทางมาถึงถนน ก่อนจะมามีรถมารับเพื่อลงเรือ ต่อจากนั้นจึงนั้นเรือมา จนมาถูกจับกุมได้ โดยทั้งหมดจะเดินทางไปทำงาน ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เสียค่าใช้จ่ายคนละ 27,000-30,000 บาท
สำหรับนายสมาน พิมพิลา กำนันตำบลปรังเผล และ ชรบ ต.ปรังเผล เป็นที่ยอมรับของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน เนื่องจากตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีผลมาจากแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเดินทางเข้ามา โดยเฉพาะในปี 2564 ที่ผ่านมา ทำให้กำนันสมานและ ชรบ ต.ปรับเปล ลุกขึ้นมาเฝ้าระวัง จัดชุดลาดตระเวน ซุ่มจับกุมแรงงานต่างด้าว ทั้งทางบกและทางน้ำ จนนำสามารถจับกุมได้หลายครั้ง ทำให้ได้รับคำชมเชยจากผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสมอ
ศุภชัย พลทิพย์ ผู้สื่อข่าว จ. กาญจนบุรี