ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าวันที่ 15 เมษายน 2565 ตำรวจสืบสวน สภ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา ควบคุมตัว นายภูไท พันทองหลาง อายุ 32 ปี อาชีพผู้รับเหมา ชาวตำบลพังเทียม อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา เก็บสร้อยคำทองคำน้ำหนัก 3 บาท จำนวน 2 เส้น รวมน้ำหนัก 6 บาท มาสอบสวนว่ามีส่วนพัวพันกับคดีร้ายปล้นร้านทองกลางเมืองโคราช หรือไม่ ปรากฏว่า นายภูไท รับสารภาพว่า เก็บสร้อยคำทองคำทั้ง 2 เส้น ได้ที่บริเวณถนนเลียบนคร เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 เมษายน ก่อนนำมาเก็บไว้กับตัวที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.พระทองคำ 60 กิโลเมตร จากนั้นได้ติดต่อ นายจักรกฤษณ์ ฤทธิ์สนธิ อายุ 49 ปี เพื่อนร่วมงาน นำสร้อยทองไปเสนอขายให้ชาวบ้าน ราคาเส้นละ 60,000 บาท ถูกกว่าราคาท้องตลาดที่ตกราคาเส้นละ 93,000 บาท ชาวบ้านเห็นพิรุธจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
จากนั้นได้ประสานกับผู้จัดการร้านทองเยาวราช กรุงเทพ สาขาห้างโลตัสโคราช ที่เกิดเหตุถูกโจรจี้ชิงทอง มาตรวจสอบ ปรากฏว่า เป็นสร้อยทอง สภาพใหม่เอี่ยม มีตราโลโก้สัญลักษณ์ตรงกับทองรูปพรรณของทางร้านที่ถูกคนร้ายจี้ชิงทองไป มั่นใจว่า คนร้ายซึ่งขี่รถจักรยานยนต์หอบสร้อยทอง 1 ถาดไว้ที่หน้าตกระหว่างหลบหนี เชื่อว่าคนร้ายทำสร้อยทอง ตกหล่นกลางทาง ตรงตามหลักฐานเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีไปตามถนนเลียบนคร มุ่งหน้า ต.บ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา และช่วงเวลาที่เก็บได้ก็ตรงกับช่วงเวลาที่คนร้ายหลบหนีพอดี
อย่างไรก็ตาม ตำรวจควบคุมตัวทั้ง 2 คน สอบสวนอย่างละเอียดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ นายกิตติพงษ์ แพไธสง หรือเบส อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาชิงทอง หรือไม่ ซึ่งตอนนี้นายเบสถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้แล้ว
ภาพ/ข่าว ประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา