เวลา 15.00 น.วันที่ 15 เม.ย.65 จากกรณี วันที่ 10-11 เม.ย.65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร/รอง ผอ.ศพดส.ตร. นำตำรวจไทยร่วมกับตำรวจกัมพูชา เข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยที่ถูกบังคับทำงานแก็งคอลเซ็นเตอร์และหลอกลงทุน จำนวน 68 คน จากกรุงพนมเปญ เมืองพระสีหนุ และเมืองบาร์เวต ประเทศกัมพูชา โดยเหยื่อทั้งหมดถูกบังคับทำงานหลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาทต่อเดือน ตามที่เป็นข่าวในสื่อโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย นั้น กระทั่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศพตส.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อพูดคุยประสานความร่วมมือกับ พล.ต.อ.เน็ท สะเวิน ผบ.ตร.ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการป้องกันการหลอกลวงคนไทยมาทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา รวมทั้งการนำคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือทั้งหมดกลับประเทศไทยโดยเร็ว
ล่าสุด หลังประสานความร่วมมือและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศกัมพูชาแล้ว วันนี้ (15 เม.ย.65) ตำรวจประเทศกัมพูชาได้ส่งตัวคนไทยทั้ง 68 คน กลับประเทศไทย ทางด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจะเร่งนำเหยื่อทั้งหมดเข้าสู่กระบวนตามมาตรการสาธาณสุข และดำเนินการคัดแยกเหยื่อในการดำเนินคดีการค้ามนุษย์และผู้ที่มีหมายจับ 27 หมาย ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตั้งแต่ผู้โฆษณาหลอกลวงเหยื่อในสื่อโซเชียลมีเดีย ผู้นำพาเหยื่อหลบหนีตามช่องทางธรรมชาติ จนถึงนายทุนชาวจีนที่เป็นหัวหน้าแก๊ง ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น เหยื่อคนไทยทั้งหมด ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกตนได้เดินทางโดยรถตู้จากกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง จนมาถึงจ.สระแก้ว และใช้การเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บขายแดน ข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้น จะมีรถมารับไปกักตัวที่ตึกแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวให้กับกลุ่มนายทุนชาวจีน ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในกรุงพนมเปญ และเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา และจะบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย
“หากไม่ทำตามก็จะถูกทำร้าย ถูกกักขัง บางรายถูกขายต่อไปยังนายทุนจีนคนอื่นในราคา 3,000 ดอลล่าร์ ซึ่งพวกตนพยายามขอความ ช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทยมาโดยตลอด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย-กัมพูชา เข้าช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยยังมีคน ไทยอีกไม่ต่ำกว่ 1,000 คน ที่ยังถูกบังคับทำงานอยู่ในหลาย ๆ เมืองในประเทศกัมพูชา” เหยื่อคนไทย กล่าวทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร ฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศพดส.ตร. ได้ช่วยเหลือคนไทยกลับมาเป็นจำนวนมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวบการจำนวนหลายราย โดยในวันนี้ยังได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินคดี และกำหนดแนวทางในการป้องกันไม่ให้คนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของคนไทย
ที่เดินทางกลับมา ได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และได้มีการสั่งการในที่ประชุมให้มีการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างรวดเร็ว และเฉียบขาด อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ผ่านช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantraficking.police go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก
https://www.facebook.com/TCAC2016 หรือ Line OA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทาง
ใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QACODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุแสะเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าว เพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป
ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.สระแก้ว