วันที่ 15 เม.ย. 2565 ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการภูธรภาค 3 และชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายกิตติพงษ์ หรือเบส หรือแฟรงค์ แพไธสง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาชิงทอง น้ำหนักรวม 153 บาท มูลค่า 4.6 ล้านบาท โดยมีสร้อยคอทองคำที่ตรวจยึดได้จำนวน 28 เส้น รวม 84 บาท เงินสด 110,000 บาท อาวุธปืนปลอม 1 กระบอก อีโม่ง 1 ใบ เสื้อสีดำแขนยาว 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำ ถุงเท้า 1 คู่ เสื้อคลุมแขนยาวสีเทา กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ กระเป๋าสะพายสีแดง 1 ใบ มีดพร้า 1 เล่ม ค้อนจำนวน 1 อัน มอเตอร์ไซค์ฟีโน่ สีขาวส้มดำ ทะเบียน งมจ 504 นครราชสีมา เหตุเกิดภายในห้างทองเยาวราชกรุงเทพ บริเวณชั้น 1 ภายในห้างดัง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเวลาประมาณ 13.20 น.ของวันที่ 12 เม.ย.2565
หลังจากคนร้ายก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลัง ติดตามจนทราบชื่อ นายกิตติพงษ์ หรือเบส แพไธสง อายุ 28 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาออกหมายจับ ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นำทองจำนวน 28 เส้นไปฝังดินไว้หลังบ้านภรรยา ก่อนที่ตนเองจะหลบหนี พร้อมด้วยทองอีกจำนวน 13 เส้นติดตัวไปด้วย ก่อนจะนำให้พรรคพวกที่กทม จำนวน 11 เส้น และที่พัทยา 2 เส้น ได้เงินมาเบื้องต้นจำนวน 110,000 บาท หลังจากนั้นหลบหนีมาได้เรื่อยๆเป้าหมายไปจังหวัดเชียงใหม่ จนถูกจับกุมในที่สุด ส่วนที่อาจว่าเป็นทหารนั้นไม่จริง สาเหตุในครั้งนี้ อ้างว่าไม่มีเงินใช้จ่าย หมุนเงินไม่ทัน ส่วนภรรยาถือว่ามีส่วนรู้เห็น อาจเข้าข่ายรับของโจร ส่วนสร้อยคอทองคำที่หายไป ผู้ต้องหาอ้างว่านำไปขายตามที่ต่างๆ ระหว่างหลบหนี บางส่วนอาจจะตกหล่นระหว่างทางที่หลบหนี จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนติดตามคืนผู้เสียหายต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อเอารับสิ่งนั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม.
ภาพ/ข่าว ประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา