“อนุทิน” จับตาสองสัปดาห์ โควิดระบาดหลังสงกรานต์ แต่เชื่อรับมือได้

"อนุทิน" จับตาสองสัปดาห์โควิดระบาดหลังสงกรานต์ แต่เชื่อ “สธ.” รับมือได้ไม่เกินขีดความสามารถ จ่อชงศบค.ผ่อนคลายมาตรการเข้มช่วยประเทศเดินหน้าทุกมิติ ยังไม่กำหนดเป็นโรคประจำถิ่น

วันที่ 18 เม.ย. ที่ทำเนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการรับมือสถานการณ์ โควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์ จะเน้นไปที่การเตรียมพร้อมเวชภัณฑ์ ทางการแพทย์และสถานพยาบาล ให้มีความพร้อมเต็มที่และเน้นไปที่การดูแลผู้ป่วยที่มี อาการโดยเฉพาะกลุ่ม 608 ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการจะเน้นดูแลแบบรักษาที่บ้าน หรือโฮมไอโซเรชั่น ส่วนผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการเลยไม่จำเป็นต้องรับยา พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยาฟาวิพิราเวียมีเพียงพอ พร้อมย้ำว่าเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล เพราะต้องรักษาตามอาการ ตามความรุนแรงของโรค และต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยคณะแพทย์ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุขได้มีการเสนอให้ผ่อนคลายมาตรการป้องกัน โควิด-19 ไม่ให้เข้มงวดมากจนเกินไป แต่จะต้องมีการเสนอผ่านคณะกรรมการก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร และในพื้นที่อื่นๆโดยไม่สวมหน้ากากอนามัยและไม่เว้นระยะห่างนั้น นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลได้มีการเตือนไปแล้ว แต่ละจังหวัดต้องมีความรับผิดชอบ โดยผู้ว่าฯราชการจังหวัด ส่วนมาตรการผ่อนคลายที่กระทรวงสาธารณสุขจะมีการเสนอให้ที่ประชุม ศบค. นั้น จะมุ่งเน้นไปที่การทำให้ประเทศเดินหน้าในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจการทำมาหากินและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน แต่ต้องไม่กระทบเสี่ยงให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องตรวจ Rt-Pcr นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เกรงว่าประชาชนจะตื่นตระหนกต่อความปลอดภัยจึงอยากให้ผ่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปก่อน แต่ก็เป็นสิ่งที่จะต้องทำในวันนึง ถ้าผ่านไปแล้วไม่มีอะไรที่เกินขีดความสามารถ ก็จะหามาตรการผ่อนคลายให้มากยิ่งขึ้น เพราะอยากให้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามถึงแผนการประกาศ โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ในวันที่ 1 ก.ค. นั้น นายอนุทินกล่าวว่าตัวเลขปัจจุบันยังไม่มีอะไรแตกต่างมากนัก และอัตราส่วนต่างๆยังเป็นไปตามหลักสากล พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีการประกาศว่าในวันที่ 1 ก.ค. โควิด-19 จะเป็นโรคประจำถิ่นเป็นเพียงแผนที่วางเอาไว้เท่านั้น หาก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถกะเกณฑ์อะไรได้มาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อม ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะประกาศ โควิดเป็นโรคประจำถิ่นพร้อมกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศหรือไม่ แต่จะต้องประกาศไปก่อน โดยแต่ละจังหวัดอาจจะมีการกำหนดเกณฑ์ อาทิ จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต เปอร์เซ็นต์ของผู้ฉีดวัคซีนและเวชภัณฑ์ต่างๆ พยายามอย่างดีที่สุด ช่วงสงกรานต์บุคลากรของสาธารณสุขไม่ได้หยุดเลย

นายอนุทิน ยังกล่าวขอขอบคุณประชาชน ที่ร่วมมือกันช่วยให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลงซึ่งไม่ทำให้เป็นภาระของระบบสาธารณสุข และเป็นเรื่องปกติที่หลังสงกรานต์จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีการสัญจรไปมาและพบปะ และใกล้ชิดกันมาก จึงเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ก็เชื่อว่าเมื่อส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนแล้ว และเชื้อเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรจนเกินขีดความสามารถระบบสาธารณสุขจะรองรับได้ ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ทั้งนี้ก็จะต้อง ติดตามสถานการณ์ในช่วงสองสัปดาห์หลังสงกรานต์จึงจะสามารถเบาใจได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คนไทยสุดซาบซึ้ง “ภูฎาน” จัดทำบทเพลงพิเศษเพื่อต้อนรับ “ในหลวง-พระราชินี”
"ดีอี" เตือนผู้ได้รับการแจ้งผ่านแอปฯ Mobile Banking ให้ลงทะเบียน “ชื่อบัญชีตรงกับเบอร์โทร” ก่อน 30 เม.ย.68
สส.จิรวุฒิ ลงพื้นที่ 3 อำเภอ ชลบุรี บูมแหล่งท่องเที่ยว
ทรงพระปรีชาสามารถมาก "ผู้ชำนาญการบิน" เล่าเบื้องหลัง "ในหลวง-พระราชินี" ทรงขับเครื่องบิน เสด็จฯเยือนภูฏาน ทรงเตรียมพระองค์ล่วงหน้า ฝึกซ้อมอย่างหนัก
สุดเศร้า ญาติเคลื่อนร่าง "4 ตร.กล้า" เหตุเครื่องบินเล็กตก กลับภูมิลำเนาไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
"ผู้ว่าฯกทม." พาชมชั้นใต้ดิน "ตึกสตง." พังถล่ม พบเสียหายไม่มาก เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 30 ราย
แหล่งท่องเที่ยว กองทัพเรือ พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ที่สวยงามและยั่งยืน
ทรัมป์จับเข่าคุยเซเลนสกีระหว่างพิธีปลงพระศพโป๊ป
พระศพโป๊ปถูกนำไปฝังไว้ที่วิหารซานตา มาเรีย มัจจอเร่
"เอกนัฏ" ล้างมาเฟีย มอก.-รื้อระบบเก่า ตั้ง 6 รายชื่อ “กมอ.ชุดใหม่” ร่วมปฏิรูปอุตฯ ต่อสู้แก๊งศูนย์เหรียญ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น