ความจริงรถไฟไทย ไม่มีตัวรถตั้งแต่สมัย ร.5 ใช้งานแล้ว

ความจริงรถไฟไทย ไม่มีตัวรถตั้งแต่สมัย ร.5 ใช้งานแล้ว ล่าสุดรฟท. สั่งซื้อเพิ่มจาก 50 คัน รับมอบล็อตแรกแล้ว 20 คัน เตรียมพลิกโฉมการให้บริการครั้งสำคัญ

จากประเด็นท่อนแร็ปบางท่อนที่ มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล แร็ปเปอร์สาว วัย 19 ปี ร้องบนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella 2022 ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้สะท้อนปัญหาในไทยเช่น “เสาไฟกินรี ต้นละแสน รถไฟไทยสมัย ร.5 ใช้มาแล้ว 120 ปี” ทำให้ถูกบางฝ่ายนำมาเป็นประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการร้องว่า “รถไฟไทยสมัย ร.5 ใช้มาแล้ว 120 ปี” ผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง ก็ได้นำมาล้อเลียนหรือวิจารณ์ประเทศตัวเอง ไปจนถึงเหน็บแนมรัฐบาล

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า เว็ปไซต์ TH.CARRO.CO ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลรถไฟไทยที่วิ่งให้บริการประชาชน ข้อมูล ณ ปี 2563 รถไฟไทยโดยเฉพาะตัวรถจักร ไม่ได้ใช้รถจักรสมัยรัชกาลที่ 5 มาวิ่งให้บริการแล้ว เพราะปัจจุบันตัวรถจักรที่การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. นำมาให้บริการประชาชน มีดังต่อไปนี้

 

 

1.รถจักรดีเซลไฟฟ้า Davenport รุ่น 500 แรงม้า รฟท. ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี 2507 จำนวน 30 คัน สร้างโดย บริษัท Davenport Locomotive Works ประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาคันละ 1.16 ล้านบาท แต่ปัจจุบันรถจักรรุ่นนี้ จอดทิ้งอยู่ตามโรงรถจักร ยังมีเหลือใช้งานสับเปลี่ยน ภายในย่านสถานีใหญ่ๆ ตามต่างจังหวัดเพียงไม่กี่คัน

 

 

2.รถจักรดีเซลไฟฟ้า GE รุ่น UM12C หรือ GEK รฟท. ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี 2507 จำนวน 40 คัน สร้างโดย บริษัท General Electric ประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาคันละ 4.5 ล้านบาท ปัจจุบันยังคงใช้งานอยู่ แม้ว่าจะมีอายุการใช้งาน 50 กว่าปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดี ทั้งทำขบวนรถโดยสาร รถสินค้า หรือรถสับเปลี่ยน โดยคงเหลือใช้การได้ทั้งหมด 45 คัน และตัดบัญชีไป 5 คัน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

3.รถจักรดีเซลไฮดรอลิก Krupp รฟท. ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี 2512 จำนวน 30 คัน สร้างโดย บริษัท Krupp ประเทศเยอรมนี ราคาคันละ 4.5 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือวิ่งได้แค่เพียงคันเดียว เนื่องจากปัญหาการซ่อมแซม อะไหล่ที่หายาก

 

4.รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom รุ่น AD24C หรือ ALS รฟท. ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2517 และมกราคม – มิถุนายน 2518 จำนวน 54 คัน สร้างโดย บริษัท Alsthom Atlantique ประเทศฝรั่งเศส ราคาคันละ 11 ล้านบาท รุ่นนี้นับได้ว่าเป็นรถจักรรุ่นยอดนิยมมากที่สุดของ รฟท. เพราะสั่งผลิตถึง 4 ครั้งด้วยกัน

 

5.รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom รุ่น AD24C หรือ AHK รฟท.ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี 2523 – 2524 จำนวน 30 คัน สร้างโดย บริษัท Alsthom ประเทศฝรั่งเศส และเยอรมนี ราคาคันละ 23 ล้านบาท สำหรับมิติตัวรถ และรายละเอียดเครื่องยนต์ เหมือนกัน Alsthom ALS ทุกอย่าง เพียงแต่องค์ประกอบตัวรถภายนอก มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในบางจุดเท่านั้น

 

6.รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom รุ่น AD24C หรือ ALD รฟท.ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี 2526 จำนวน 9 คัน สร้างโดย บริษัท Alsthom ประเทศฝรั่งเศส ราคาคันละ 26.9 ล้านบาท

 

 

7.รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom รุ่น AD24C หรือ ADD รฟท.ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี 2528 จำนวน 20 คัน สร้างโดย บริษัท Alsthom ประเทศฝรั่งเศส ราคาคันละ 42 ล้านบาท สำหรับมิติตัวรถ และรายละเอียดเครื่องยนต์ เหมือนกัน Alsthom ALS เพียงแต่องค์ประกอบตัวรถภายนอก มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในบางจุดเท่านั้น เช่น ด้านหน้าบริเวณแค็บ มีราวเหล็กติดตั้ง

 

8.รถจักรดีเซลไฟฟ้า Hiatchi รุ่น 8FA-36C หรือ HID จำนวน 22 คัน สร้างโดย บริษัท Hitachi ที่โรงงาน Mito ประเทศญี่ปุ่น ราคาคันละ 75 ล้านบาท รถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi ปัจจุบันยังคงใช้งานทำขบวนรถโดยสาร และขบวนรถสินค้าของ รฟท. อยู่ โดยถูกตัดบัญชีไป 1 คัน

 

 

9.รถจักรดีเซลไฟฟ้า GE รุ่น CM22-7i หรือ GEA รฟท. ได้นำเข้ามาใช้งานเมื่อปี 2538 จำนวน 38 คัน สร้างโดย บริษัท General Electric Transportation Systems ประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาคันละ 54 ล้านบาท รถจักรดีเซลไฟฟ้า GE ปัจจุบันยังคงใช้งานทำขบวนรถโดยสาร และรถสินค้าของ รฟท. มีตัดบัญชีไป 2 คัน

 

 

10.รถจักรดีเซลไฟฟ้า CSR Qishuyan รุ่น U20 หรือ SDA3 รฟท. ได้สั่งรถจักรจากประเทศจีนเป็นครั้งแรก และนำเข้ามาใช้งานเมื่อเดือนมกราคม 2558 จำนวน 20 คัน ปัจจุบันนับว่าเป็นรถจักรดีเซลรุ่นล่าสุดของ รฟท. ที่ใช้งานอยู่ในขณะนี้ เน้นใช้ในการขนสินค้าเป็นหลัก

 

และล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รฟท.ได้รับมอบหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้ารุ่นใหม่จากจีน ชุดแรก  20 คัน จากจำนวนที่สั่งซื้อทั้งหมด 50 คัน ซึ่งผลิตโดยบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ซิชูเยียน หลังจากได้เซ็นสัญญาสั่งซื้อเมื่อปี 2563 ส่วนจำนวนที่เหลืออีก 30 คัน ส่งมอบภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยรฟท.จะนำมาใช้ทดแทนรถจักรเดิมที่มีอายุการใช้งานมายาวนาน และบางคันมีการใช้งานมากกว่า 50 ปี จึงถือเป็นการพลิกโฉมการให้บริการรถไฟครั้งสำคัญ โดยจะทำให้ รฟท.มีรถจักรเพียงพอต่อการให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าได้มากขึ้น เพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่ทยอยเปิดใช้งานในอนาคต

 

 

ส่วนรถไฟที่เก่าที่สุด ที่รฟท.ได้นำออกมาวิ่งคือ รถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์แบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 ซึ่งเป็นรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ รฟท.จะนำออกมาใช้ลากจูงขบวนพิเศษนำเที่ยวเท่านั้น เนื่องในโอกาสวันสำคัญ จำนวน 6 ครั้ง ต่อปี ประกอบด้วย 1. วันที่ 26 มีนาคม ของทุกปี วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพฯ-อยุธยา 2. วันที่ 3 มิถุนายน ของทุกปี วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี เส้นทางกรุงเทพฯ-นครปฐม 3. วันที่ 28 กรกฎาคม ของทุกปี วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เส้นทางกรุงเทพณ-อยุธยา 4. วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี วันแม่แห่งชาติ เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา 5. วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพฯ-อยุธยา และ6. วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“บิ๊กอ้วน”ซัดปาก! พวกกระหายสงคราม “บิ๊กปู” คอนเฟิร์ม “ว้าแดง” เรียบร้อยดี
เวียงแหงโมเดล! เยาวชนคนรุ่นใหม่ One Young World เครือซีพี ปักธง FIGHT หมอกควันชายแดนไทย-พม่า เรียนรู้-ชวนชุมชมร่วมลด PM 2.5
ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล
กรมวิทย์ฯ บริการ มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน 2568 ..ฟรี !! ฝึกอบรมเสริมทักษะด้าน วทน. ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นขอการรับรองทุกขอบข่าย เสริมความสามารถของห้องปฏิบัติการไทยสู่สากล
"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น