ปัตตานีอ่วม! โควิดพุ่งวันเดียว 144 คน ยอดสะสมทะลุพัน กลุ่มเสี่ยงอีกอื้อ

ปัตตานี โควิดพุ่งวันเดียว 144 คน ยอดสะสม1100 มีกลุ่มเสี่ยงอีกเป็นพันราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้( 19 มิย. 2564) สถานการณ์โควิด19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี พบผู้ติดเชื้อพุ่งสูงอีก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศ พบผู้ป่วยวันเดียวพุ่งถึง 144 คน ทำให้มียอดสะสมสูงถึง1,100 คน และเสียชีวิต 2 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจากโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ก่อนขยายในชุมชน และครอบครัว ทำให้ทุกฝ่ายเริ่มกังวล ซึ่งทางจังหวัดปัตตานี มีประชุมหลายครั้ง แต่ยังไม่กล้าออกมาตรการณ์จนวันนี้พุ่งสูงกว่าปกติอีก จึงได้ออกคำสั่งมาตรการณ์ เฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด

-โดยให้ปิดหมู่บ้าน หรือชุมชนทันที หากพบผู้ติดเชื้อ และงดปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดพื้นที่นั้นๆ
-สถาบันปอเนาะทุกแห่ง ห้ามนำนักเรียนเข้ามาพักอาศัยระหว่างปิดภาคเรียนโดยเด็ดขาด หากมีความจำเป็นให้ผู้อำนวยประสานโรงพยายาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่เข้ามาคัดกรองนักเรียนอย่างเข้มงวด
-ร้านอาหาร หรือร้านน้ำชา, กาแฟ ห้ามให้นั่งภายในร้านโดยเด็ดขาด ให้ซื้อกลับไปบริโภคที่บ้านแทน,
-การจัดงานมงคล เช่นงานแต่ง งานบวช ห้ามจัดเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ และงานศพ ฝั่งศพ เผาศพ ให้แจ้งพนักงานควบคุมโรคเพื่อดำเนินการมาตรการป้องกันโรค
-โรงงานอุตสหกรรมทุกโรงงานให้มีมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ตรวจความเข้มงวดของประชาชนในการสวมแมสก์ ทั้งนี้หากใครไม่ปฏิบัติตามจังหวัดจะนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

 

 

นอกจากนี้ จังหวัดได้มีการสั่งปิดหมู่บ้าน 2 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 4 และหมู่5 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี และห้ามปฏิบัติศาสนากิจในพื้นที่ ที่มีการปิดหมู่บ้าน และจัดเจ้าหน้าที่คุมเข้มตลอด 24 ชม.
ขณะเดียวกันจังหวัดปัตตานีได้จัดกำลังทั้ง 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ให้มีการตั้งด่าน และกำชับด่านเดิมทุกจุดในพื้นที่จังหวัดปัตตานีให้มีการสอดส่องผู้ที่เดินทางไปมา หากพบว่าไม่สวมหน้ากากอนามัย ให้ตักเตือนก่อน หากมีการถกเถียงให้จับดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ทางจังหวัดมีการออกมาตรการอย่างเข้มงวดแล้ว ปรากฏว่าบรรดาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งพ่อค้าแม้ค้า ร้านค้า ๆ ต่างออกมาวิพากวิจารย์ในโลกโซเชี่ยลกันอย่างกว้างขวาง โดยระบุว่า เหตุที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอย่างรวดเร็วนั้น สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีมาตราการณ์ที่ละหลวมไม่ชัดเจน ล่าช้า และปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ไม่ให้ประชาชนรับรู้หรือรับรู้ล่าช้า ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และเมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้ ผลกระทบก็ตกอยู่กับผู้ประกอบการ ค้าขายรายย่อยและประชาชน จนทำให้มีการประเมินการทำงานของภาครัฐค่อนข้างไม่ดีนักต่อประชาชนในพื้นที่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น