องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ออกแถลงการณ์ คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้เกิดการคดโกงงบประมาณของประเทศ โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ให้ตัดบทลงโทษ ส.ส. ส.ว. และกรรมาธิการที่แทรกแซงการจัดทำงบประมาณประจำปี ตามมาตรา 144 และ ตัดข้อห้ามมิให้ ส.ส. และ ส.ว. แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ตามมาตรา 185 นั้น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น เห็นว่า การแก้ไขดังกล่าวจะทำให้การต่อต้านคอร์รัปชั่นของประเทศล้มเหลว เพราะการตัดบทลงโทษดังกล่าวเปิดโอกาสให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถสอดแทรก-ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการที่เป็นฝ่ายบริหารได้โดยง่าย ซึ่งจากที่ผ่านมางบประมาณแผ่นดินได้ถูกจัดสรรอย่างไม่เป็นธรรม มีการคดโกงเกิดขึ้นอย่างมากมายจากการสอดแทรกใช้อำนาจหน้าที่อย่างไม่ถูกต้อง
การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคพลังประชารัฐได้ยื่นขอ นอกจากจะเปิดทางให้เกิดการคดโกงแล้วยังขัดต่อหลักธรรมาภิบาล และการมีผลประโยชน์ทับซ้อนตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ที่ไทยเป็นสมาชิกอยู่ ซึ่งการต่อสู้เอาชนะคอร์รัปชั่นต้องชัดเจนทั้งหลักการและวิธีการ การมีมาตรการที่ครอบคลุม ปฏิบัติได้จริงจัง จึงจะพิสูจน์ความเป็น “รัฐธรรมนูญปราบโกง” และวาระแห่งชาติในการต่อต้านคอร์รัปชั่นได้ การลดทอนให้เหลือเพียงหลักการลอยๆ ไม่มีแนวปฏิบัติปราศจากบทลงโทษ แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจเด็ดขาดในการปราบปรามคอร์รัปชัน ทำให้คนโกงย่ามใจ คนไทยทั้งชาติอยู่ในสภาวะของการ “จำยอมกับการโกงของผู้มีอำนาจ” อีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ทั้งสองประการดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันขอคัดค้านการเสนอแก้ไขรัฐธรรมทั้งสองมาตราดังกล่าวอย่างถึงที่สุด และขอเชิญชวนให้ประชาชน สื่อมวลชน และทุกภาคส่วนของสังคมร่วมผนึกกำลังในการต่อต้านครั้งนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับงบประมาณแผ่นดินและผลกระทบที่เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต