พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังเข้าติดตามดูสำนวนคดีหญิงสาวผู้เสียหายกว่าสิบรายเข้าแจ้งความเอาผิดอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองดัง ในข้อหากระทำอนาจารฯ และข่มขืนกระทำชำเรา ว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายในคดีทั้งหมด 15 ราย แบ่งเป็นคดีข่มขืน 3 ราย อนาจาร 7 ราย ข่มขืนและอนาจาร 1 ราย อนาจารและพรากผู้เยาว์ 1 ราย ขาดอายุความ 1 ราย คดีต่างประเทศ 1 ราย และกำลังพิจารณาว่า คดีขาดอายุความหรือไม่ 1 ราย
ตำรวจเตรียมออกหมายจับเพิ่ม นักการเมืองดังก่อเหตุข่มขืนอนาจารหญิงสาวนับสิบราย อยุ่ระหว่างรอผลนิติวิทยาศาสตร์ ล่าสุดพบถูกแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์อีกราย
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยแบ่งเป็นคดีของ สน.ลุมพินี 9 ราย อีกทั้งมีคดีของผู้เสียหายที่มีคลิปเสียงการสนทนากับผู้ต้องหา ซึ่งตอนแรกผู้เสียหายประสงค์ให้การเป็นพยานเท่านั้น เพราะได้รับการชดใช้มาส่วนหนึ่งแล้ว แต่ตำรวจพิจารณาแล้วเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ จึงกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อรับเป็นคดี
ส่วนกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ อ้างว่ามีนายตำรวจยศพลตรี เข้ามาแทรกแซงคดีนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า วานนี้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ได้คุยกับมารดาผู้เสียหายในคดีแรกแล้ว ซึ่งยืนยันที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยตำรวจนายนี้เป็นข้าราชการบำนาญเกษียญราชการ ที่ฝ่ายผู้เสียหายมีความเคารพนับถือและรู้จักมานาน จึงได้สอบถามเรื่องข้อกฎหมาย แต่ยืนยันว่า อดีตตำรวจนายนี้ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับคดี หรือแม้แต่ติดต่อพนักงานสอบสวนเข้ามา อีกทั้งฝ่ายผู้เสียหายยังคงเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ยังไม่กลับคำให้การ หรือถอนการแจ้งความ เพียงแต่ต้องการความเป็นส่วนตัว เชื่อว่าทนายตั้มอาจเข้าใจผิด
นอกจากนี้ ยังยืนยันอีกว่า นับตั้งแต่รับคดีวันแรก ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือกดดันการทำงานของตำรวจ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม รวดเร็วและรอบคอบ โดยคดีแรกที่รับไว้จะปิดสำนวนได้ในเวลาไม่นาน เพียงแต่รอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา โดยในสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าในการขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-