เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 22 เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า กรมควบคุมโรค โดยกระทรวงสาธารณสุขได้แยกกลุ่มจังหวัด พบว่า 21 จังหวัดอยู่ในกลุ่มของตัวเลขผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ขาขึ้นที่ ยังต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาด ประกอบด้วยจังหวัดลำพูน แพร่ ลำปาง พิษณุโลก สุโขทัยกำแพงเพชร นครสวรรค์ สกลนคร บึงกาฬ เลยอุดรธานี ขอนแก่น นครพนม หนองคาย ยโสธรมหาสารคาม ศรีสะเกษ นนทบุรี นครนายกกาญจนบุรี และอุทัยธานี
ศบค.เผย 21 จว.พบขาขึ้นยังสู้โควิดโอมิครอนระบาด อีก 44 จว. กรุงเทพฯยังทรงตัว ยังไม่ประกาศเป็นโรคประจำถิ่น เหตุต้องกดอัตราผู้เสียชีวิตต่ำ
ข่าวที่น่าสนใจ
ส่วนกลุ่มที่ 2 พบว่ามี 44 จังหวัด เริ่มทรงตัว ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน เพชรบูรณ์อุตรดิตถ์ พะเยา พิจิตร ชัยนาท พระนครศรีอยุธยาปทุมธานี สิงห์บุรี ลพบุรี ตาก สมุทรสงครามสมุทรสาครราชบุรีนครปฐม อ่างทอง และสระบุรี ขณะที่ส่วนที่ 2 อีก 44 จังหวัด ประกอบด้วยประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี พัทลุง พังงา ชุมพรชลบุรี สมุทรปราการ มุกดาหาร ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ระยอง ปราจีนบุรี ตราด สระแก้วหนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นช่วงขาลงพบว่ามี 12 จังหวัด ประกอบด้วย เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระยอง ตรัง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สตูล สงขลา ยะลาปัตตานี และนราธิวาส
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ในภาพรวมการประกาศว่าโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นจะบ่งบอกว่าอัตราจำนวนผู้เสียชีวิตถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะนำมาใช้ในการบอกว่าเราไปถึงระยะนั้นแล้วหรือไม่เพราะจะต้องน้อยกว่า 0.1% เป็นรายสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ติดต่อกัน นั่นคือสิ่งที่ต้องพยายามทำให้อัตราผู้เสียชีวิตต่ำไปกว่านี้เราจะได้นำไปสู่การประกาศเป็นโรคประจำถิ่นต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-