หลัง อดีต ด.ต.ศิริภพ วงศ์มาเกตุ อดีต ผบ.หมู่สืบสวนสอบสวน สังกัดกองยังคับการตำรวจภูธร จ.อุบลราชขธานี ซึ่งถูกให้ออกจากราชการ ปาระเบิด 7 ลูกซ้อนเข้าใส่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 5 ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ ซึ่งเป็นบ้านของ นายวิวัฒน์ ถิ่นถาวร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุคาดว่า อดีต ด.ต.ศิริภพ ไม่พอใจที่ นายวิวัฒน์ ร้องเรียนต้นสังกัดเรื่อง อดีต ด.ต.ศิริภพ เมาแล้วชอบยิงปืนจนถูกไล่ออกจากราชการ ล่าสุด พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สภ.วารินชำราบ นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมอาวุธครบมือ เข้าตรวจค้นบ้าน อดีต ด.ต.ศิริภพ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านหลังเกิดเหตุแต่ไม่พบตัว จึงคาดว่า อดีต ด.ต.ศิริภพ น่าจะหลบหนีออกจากบ้านไปหลังก่อเหตุ
ผกก.สภ.วารินชำราบ ส่งชุดสืบสวนไล่ล่า อดีต ตร.ปาระเบิด 7 ลูกซ้อนเใส่บ้านญาติ ปมถูกให้ออกจากราชการ
ข่าวที่น่าสนใจ
ขณะที่ พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด เข้าเก็บกู้ระเบิด M 67 ชนิดขว้างที่ยังไม่ระเบิดอีก 1 ลูก ซึ่งตกอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนนำไปทำลายทิ้งกลางทุ่งนา จากนั้นได้ค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมพบกระเดื่องนิรภัย และสเก็ดระเบิดที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของบ้านหลังเกิดเหตุ โดยหลังตรวจสอบ พ.ต.อ.ยุทธนา ระบุว่า ขณะนี้ได้จัดชุดสืบสวนออกติดตามไปยังจุดที่คาดว่า อดีต ด.ต.ศิริภพ จะไปหลบซ่อนกับคนรู้จัก พร้อมทั้งประสานให้ครอบครัวติดต่อไปยัง อดีต ด.ต.ศิริภพ ให้เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้ไปตามกระบวนของกฎหมาย
ด้าน นายธงชัย วงมาเกษ อายุ 67 ปี บิดาของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 279 ในชุมชนเดียวกัน นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าค้นบ้านเและห้องพักของ อดีต ด.ต.ศิริภพ พบยุทธภัณฑ์ภาคสนามทั้งหมวกเหล็ก เสื้อเกราะกันกระสุน ซองใส่ปืนลูกซองยาว พบปืนพกสั้นขนาด .357 และลูกกระสุนปืนที่เก็บไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้า รวมทั้งยังพบยาบ้าเกือบ 100 เม็ด และป้ายทะเบียนรถยนต์อีก 4 แผ่นป้าย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามไปที่บ้านของ นางสุภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี ป้าของ อดีต ด.ต.ศิริภพ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเมื่อเข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ไม่พบร่องรอยของผู้ต้องหา
สอบถาม นางสุภาพร เล่าว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มาที่บ้านตนนานหลายสัปดาห์แล้ว และเมื่อคืนก็ไม่ได้มาพักอยู่ที่นี่แต่อย่างใด หากพบตัวหลานชายก็จะแนะนำให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหลบหนีอย่างไรก็หนีไม่รอด อยากให้รับกรรมกับสิ่งที่กระทำลงไป ที่สำคัญ คือ การที่หลานมีพฤติกรรมอย่างนี้ ทำให้ลูกเมียอยู่ด้วยไม่ได้
ขณะที่คนรู้จักของ อดีต ด.ต.ศิริภพ บอกว่า ปกติถ้า ด.ต.ศิริภพ ไม่กินเหล้า หรือไม่เสพยา ก็จะเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ถ้าได้กินเหล้า หรือเสพยาเข้าไปก็จะกลายเป็นคนละคน โดย ด.ต.ศิริภพ จะมีอารมณ์ฉุนเฉียว ด่ากราดไปทั่ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าน่าจะมาจากอาการหลอนยาเสพติดที่เสพเข้าไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-