วันนี้(25 เม.ย.65) นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (นายทศพล ทังสุบุตร) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รายงานให้ทราบว่า เดือนมีนาคม 2565 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 53 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 36 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,838 ล้านบาท
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยเดือนมีนาคม 2565 อนุญาตให้ต่างชาติลงทุนในไทย 53 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 10,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากเดือนก่อน ส่วนใหญ่มาจากจากฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทยแล้ว 447 คน
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 17 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ มีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 962 ล้านบาท ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 447 คน รวมถึง มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมหลุมเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมในการออกแบบระบบโซล่าขั้นสูง และองค์ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า เป็นต้น
เดือนมีนาคม 2565 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) รวมถึง สนับสนุนการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต อาทิ
* บริการขุดเจาะปิโตรเลียม ภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
* บริการออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง ตรวจสอบ ดำเนินงาน ทดสอบ รวมถึงการบำรุงรักษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับระบบกักเก็บพลังงาน
* บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Electric Vehicle Charging Station) สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
* บริการรับจ้างผลิตและประกอบรถยนต์ เป็นต้น
การลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในเดือนมีนาคม 2565 นี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จะลงทุนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 29 ราย และนักลงทุนต่างชาติยังสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 10 ราย คิดเป็นร้อยละ 19 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมดในเดือนนี้ โดยมีเงินลงทุนในพื้นที่ EEC กว่า 6,323 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 58 ของเงินลงทุนทั้งหมด
ทั้งนี้ เป็นนักลงทุนจากจีน 3 ราย ลงทุน 3,189 ล้านบาท ญี่ปุ่น 2 ราย ลงทุน 630 ล้านบาท และ สหรัฐอเมริกา 1 ราย ลงทุน 637 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ 1) บริการโทรคมนาคมเพื่อสาธารณะ (Public Switched Telecommunication Service) ภายในประเทศ ประเภทบริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2) การเป็นบริษัทการค้าระหว่างประเทศเพื่อจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ และ 3) บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-