“สกลธี” เผยกระแสความนิยมดีขึ้น เตรียมปราศรัยใหญ่ 13 และ 20 พ.ค.นี้

"สกลธี" เผย กระแสความนิยมดีขึ้น เตรียมปราศรัยใหญ่ 13 พค.และ 20 พ.ค.นี้ ชี้ผลโพลที่ดีที่สุดคือการลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชน เผยกลยุทธ์หาเสียงโค้งสุดท้ายเน้นลงพื้นที่ ทำคอนเท้นต์สั้นๆลงโซเชียล

วันที่ 25 เม.ย. ที่ตลาดสามย่าน นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 3 ลงพื้นที่ทักทายและแนะนำตัวกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และ ขึ้นรถแห่แนะนำตัวกับพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ก่อนจะไปสำรวจการขนส่งที่ถนนรองเมือง

โดยนายสกลธี เปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ตั้งใจที่จะมาสำรวจพื้นที่เขตปทุมวัน เนื่องจากเป็นเมืองชั้นใน และมีพื้นที่ใต้ทางด่วนค่อนข้างเยอะ เพราะที่ผ่านมาตนได้เจรจากับ การทางพิเศษที่จะนำเอาพื้นที่ใต้ทางด่วนมาใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจจะทำในรูปแบบลานกีฬา หรือเป็นพื้นที่ที่พี่น้องชาวกรุงเทพฯสามารถใช้ร่วมกันได้ ซึ่งตนคิดว่าเราจะต้องขอนำพื้นที่ในส่วนราชการอื่นๆมาใช้ประโยชน์ด้วย เพราะบางพื้นที่สามารถทำได้หลายอย่าง หรือบางที่ใกล้กับแหล่งของคนทำงาน อาจจะทำเป็นสวนให้พี่น้องประชาชนมาค้าขายได้ เพราะตนมองว่าคนกรุงเทพฯน่าจะใช้ประโยชน์รวมกันได้

ส่วนในฐานะที่เคยเป็นรองผู้ว่าฯกทม. มาก่อน เคยมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้บ้างหรือไม่นั้น นายสกลธี กล่าวว่า ขณะที่ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. ได้มีการพูดคุยกับหลายหน่วยงาน ที่จะเอาพื้นที่ว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์ แต่อยู่ในขั้นตอนของการคัดเลือกพื้นที่ เนื่องจากในกรุงเทพฯ มีพื้นที่ว่างเปล่าค่อนข้างเยอะพอสมควร

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามถึงการส่งเสริมนโยบายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่จะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ค. นี้มีอะไรบ้างนั้น นายสกลธี กล่าวว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนประมาณ 20 ตลาด 6-7 เขต ซึ่งการลงพื้นที่แต่ละครั้ง ตนมีโอกาสได้รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เพราะแต่ละเขตมีปัญหาที่แตกต่างกัน แต่พ่อค้ากับแม่ค้าจะพูดเหมือนกันคือกำลังซื้อของคนหายไปมากในช่วงโควิด-19 ดังนั้นการที่รัฐบาลจะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ค. ตนคิดว่าทุกหน่วยงานจะต้องช่วยกันกระตุ้นให้ได้ เพราะทางกทม. เตรียมการจัดงานขึ้นในแต่ละเขต โดยการดึงเอาเสน่ห์ของชุมชนออกมาเผยแพร่ ซึ่งอาจจะจัดในรูปแบบของถนนคนเดิน หรือจัดในพื้นที่ชุมชนและเอาดนตรีมาเปิด โดยตนได้ พี่แก่ กฤษณะ ซึ่งเป็นอดีตรอง ผู้ว่าฯ ททท.ที่มีความสามารถด้านการท่องเที่ยวในประเทศมาช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวให้บูมขึ้นมา

ส่วนประเด็นการตรวจสอบเรื่องของการทุจริตหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายสกลธี กล่าวว่า ส่วนตัวอยากจะกระจายงบประมาณไปยังเขตต่างๆให้มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมางบประมาณจะกระตกไปยังโครงการใหญ่ๆมากจนเกินไป จนทำให้งบประมาณที่ลงไปตามเขตต่างๆถูกละเลย เพราะสิ่งที่เขตเสนอมา ล้วนแต่ได้รับจากการร้องเรียนจากประชาชนว่าพื้นที่ตรงไหนชำรุด หรือได้รับความเสียหายบ้าง ดังนั้นหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็จะนำภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการนี้ด้วย

นายสกลธี ยังกล่าวถึง กลยุทธ์หาเสียงโค้งสุดท้าย ว่าส่วนตัวมองว่าก็คงจะต้องผสมผสานการลงพื้นที่เช้า กลางวัน เย็น กลางคืน เพื่อจะได้พบพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด แต่ช่วงหลังอาจจะมีการลงพื้นที่น้อย เนื่องจากมีการดีเบตหลายๆที่ หรือทำคอนเทนต์สัมภาษณ์สั้นๆลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งตนมองว่าในสองส่วนนี้อาจจะสอดรับกัน คือการทำภาพกว้าง และลงพื้นที่ด้วย คาดว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งตนจะมีการปราศรัย 2 วัน คือวันที่ 13 พ.ค. ที่ลานคนเมืองกทม. และวันที่ 20 พ.ค. ที่วงเวียนใหญ่
นายสกลธี กล่าวถึงกระแสความนิยมว่า ดีขึ้น สืบเนื่องจากช่วงแรกๆหลังจากที่ตนลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. ได้ประมาณ 1 เดือน ตนได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี และทุกครั้งที่ลงพื้นที่ก็จะมีพี่น้องประชาชนมาต้อนรับจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวมองว่าผลโพลที่เป็นตัววัดที่ดีที่สุดคือการที่ตนลงพื้นที่และมีคนเข้ามาทักทาย หรือถาม หรือปรึกษามากกว่า

ส่วนเมืองต้นแบบที่อยากจะปรับปรุงกรุงเทพฯ ให้เป็นเหมือนเมืองต้นแบบนั้น นายสกลธี กล่าวว่า แต่ละเมืองมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ซึ่งตนเป็นคนชอบเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตนก็อาจจะมีการนำแนวคิด หรือความสวยงามของสถานที่ต่างๆมาพัฒนาพื้นที่ต่างๆในกรุงเทพฯ และตอนนี้เขตที่ได้รับการร้องเรียน และมีปัญหามากที่สุดคือพื้นที่รองเมือง เนื่องจากมีการจอดรถกีดขวางการจราจรจำนวนมาก ซึ่งตนมองว่าในอนาคต การบังคับจอดในที่ห้ามจอดของตำรวจจราจรจะต้องโอนมากทม.โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะกทม.สามารถที่จะเข้มงวด กวดขัน และบังคับใช้กฎหมายได้มากขึ้น ก็อาจจะทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น