"รวมหนี้เป็นก้อนเดียว" มาตรการบ้านดี หนี้เบา จากธนาคารออมสิน ลดภาระลูกหนี้ เสริมสภาพคล่องในช่วงสถานการณ์โควิดโดยเฉพาะ
ข่าวที่น่าสนใจ
“รวมหนี้เป็นก้อนเดียว” มาตรการบ้านดี หนี้เบานี้ เป็นการรีไฟแนนซ์และการรวมหนี้ภายนอกธนาคารไว้ในที่เดียว
- เป็นการรวมหนี้สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นมารวมหนี้กับสินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน
- เป็นการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านมาจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมกับขอรวมหนี้สินเชื่อรายย่อยจากธนาคารออมสิน
- เป็นการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านมาจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมกับขอรวมหนี้สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นจากสถาบันการเงินเพิ่ม
ข้อดีของการเข้าร่วมโครงการ
1. ลดภาระดอกเบี้ยและค่างวด
- ด้วยอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อรายย่อยที่ลดลง เมื่อนำมารวมหนี้
2. เพิ่มสภาพคล่อง
- ด้วยระยะเวลาผ่อนชำระได้นานขึ้น
3. ไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต
- หากเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จตั้งแต่ก่อนเป็นหนี้เสีย
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ
- ต้องเป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
- เป็นลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ผลิตภัณฑ์ที่เข้าเงื่อนไขของมาตรการรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ต้องไม่เป็น NPL ปัจจุบัน ไม่มีหนี้ค้างชำระ และยังคงมีศักยภาพในการชำระหนี้
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
ระยะเวลาสมัคร
-
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566
วงเงินให้กู้
- สูงสุด (LTV) ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน (โดยยอดหนี้ของสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นที่นำมารวมหนี้ เมื่อรวมกับยอดหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะต้องไม่เกินกว่ามูลค่าของราคาหลักประกัน)
ระยะเวลาผ่อนชำระ
- ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี
อัตราดอกเบี้ย
- สินเชื่อบ้าน ไม่เพิ่มจากเดิม ยกเว้นกรณีมีการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
- สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นที่นำมารวมหนี้ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยไม่เกินอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เป็นอัตราดอกเบี้ยช่วงลอยตัวตามสัญญากู้เงิน บวกร้อยละ 2 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
สินเชื่อรายย่อยที่สามารถนำมารวมหนี้กับหนี้บ้าน (Debt Consolidation)
- บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล/สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อทะเบียนรถยนต์เป็นประกัน
เงื่อนไขอื่น ๆ
- สินเชื่อรายย่อยที่มีอยู่กับธนาคารออมสิน ธนาคารจะไม่นำดอกเบี้ยค้างของสินเชื่อรายย่อยมารวมกับยอดหนี้ ดังนั้น กรณีผู้กู้ต้องการรวมหนี้สินเชื่อรายย่อยดังกล่าว ผู้กู้ต้องชำระดอกเบี้ยค้างชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการต่าง ๆ และเบี้ยปรับในการให้บริการ (ถ้ามี) ให้เสร็จสิ้นก่อนจ่ายเงินกู้
- สินเชื่อรายย่อยกับสถาบันการเงินอื่น ธนาคารจะทำการรวมหนี้ด้วยวิธีการรวมยอดเงินต้น และดอกบี้ยทั้งหมด
- ในการชำระหนี้แต่ละบัญชีต้องชำระหนี้ปิดบัญชีเท่านั้น ยกเว้น สินเชื่อที่มีลักษณะเป็นเงินหมุนเวียน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (OD) หากชำระหนี้ได้เพียงบางส่วนจะไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
- กรณีภาระหนี้ส่วนต่างที่ไม่ได้นำมารวมการขอสินเชื่อในครั้งนี้ และ/หรือกรณีสินเชื่อที่นำมารวมหนี้ในครั้ง มีส่วนเกินจากวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ อาทิเช่น ดอกเบี้ยค้างชำระ ค่าธรรมเนียม ค่าบริการต่าง ๆ และเบี้ยปรับในการให้บริการต่าง ๆ และเบี้ยปรับในการให้บริการ (ถ้ามี) ฯลฯ ผู้กู้จะต้องชำระยอดหนี้ค้างชำระทั้งหมดพร้อมทั้งนำหลักฐาน หรือเอกสารในการชำระหนี้มาแสดงในวันที่ทำสัญญากู้เงิน
- ผู้เข้าร่วมโครงการต้องลงนามสัญญากู้เงิน และจดทะเบียนจำนองหลักประกันตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาหลักประกัน, ค่าอากรแสตมป์, ค่าใช้จ่ายในการจดจำนอง และอื่น ๆ (ถ้ามี)
- กรณีผู้เข้าร่วมโครงการผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารสามารถเก็บอัตราดอกเบี้ยผิดนัด ค่าบริการเบี้ยปรับ ที่เกิดจากการผิดนัดได้ รวมทั้งสมารถดำเนินทางกฎหมายเพื่อบังคับหลักประกันที่จำนองเพื่อชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญากู้เงินและสัญญาจำนอง
ข้อมูล : ธนาคารออมสิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง