วันที่ 29 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานสภาอากาศในช่วงวันที่ 29 เม.ย. – 2 พ.ค. 65 จะมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 1 – 2 พ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
โดยเมื่อคืนของวันที่ 28 เมษายน 2565 ในหลายพื้นที่เขตจังหวัดสุรินทร์ ได้เกิดลมกระโชกแรงประกอบกับฝนตกหนัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ได้เกิดฝนตกหนัก พร้อมกับมีพายุพัดถล่มราว 20 นาที ก่อนลมจะสงบ ทำให้บ้านเรือนถูกลมพัดเอาหลังคาลอยออกไปตกที่บ้านข้างเคียงเกิดความเสียหายหลายหลังคาเรือน พร้อมกับมีไฟฟ้าดับนานนับชั่วโมง โดยผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจความเสียหายพบว่า ที่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 13 เทศบาลท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น อยู่ติดริมลำน้ำมูลได้ถูกพายุพัดเอาหลังคาปลิวไปตกที่บ้านข้างเคียงทำให้เกิดความเสียหาย และมีอีกหลายหลังที่ได้รับผลกระทบ
โดยนางบุญยืน มาลีหวล อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 9 หมู่ 13 ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลาทุ่มกว่า ๆ ตนเองนั่งอยู่ชั้นล่างกับเพื่อนบ้าน ขณะมีลมพายุพัดผ่านมาและเกิดฝนตกหนัก ตนเองได้ยินโครมดังอย่างแรง เมื่อเงยหน้าขึ้นดูก็พบว่าหลังคาที่อยู่ชั้นบนของบ้าน โดนพายุพัดจนปลิวออกไปครึ่งหลัง และนางบุญยืน ยังได้กล่าวอีกว่า บ้านหลังนี้ถูกพายุพัดถล่ม 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรก เมื่อปี 55 ครั้งต่อมาก็เมื่อคืนนี้ ตนเองคิดว่าต่อจากนี้ก็คงจะรื้อแล้วทำเป็นบ้านชั้นเดียวไม่ยังงั้นถ้าเจอพายุถล่มอีก ตนกลัวว่าจะต้องเป็นแบบนี้อีกตามเคย
อย่างไรก็ตาม นางชนมณี จารุธนิตกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าตูม ได้เร่งออกสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ เพื่อรายงานให้จังหวัดทราบและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนต่อไป.
ภาพ/ข่าว สุทิศ บุญยืน
เรียบเรียง / กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์