วันที่ 1 พ.ค. 65 นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกมธ.การเงิน การคลัง สถาบันการเงินเเละตลาดการเงิน สภาฯ กล่าวถึงกรณีเครือข่ายเเรงงาน นำโดย คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) จัดกิจกรรม “วันกรรมกรสากล 2565-May Day 2022 ” เดินทางไปที่ทำเนียบฯ ยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลให้ทำตามสัญญาที่หาเสียงช่วงเลือกตั้งไว้ ว่า ก่อนหน้านี้ ตนมองเนื้อหา จดหมายเปิดผนึก ที่เสนอให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มเป็นวันละ 492 บาท ในอัตราเท่ากันทั้งประเทศ นั้นก็เข้าใจเเละเห็นใจพี่น้องแรงงาน แต่ในความเป็นจริงการปรับขึ้นต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างความต้องการของทั้งลูกจ้าง และนายจ้าง ที่เจอภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาโควิด-19 เล่นงานอย่างสาหัส น่าเห็นใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้าแก้ผิดจุดจะกลายเป็น วิกฤติซ้อนวิกฤติ แก้ปัญหาหนึ่งแต่สร้างอีกปัญหาหนึ่ง โดยถ้าไม่ปรับขึ้นค่าเเรงใดๆเลย ผู้ใช้เเรงงานคงอยู่ลำบาก จากการปรับตัวขึ้นราคาของสินค้าที่แม้กระทรวงพาณิชย์จะพยายามช่วยให้กระทบน้อยที่สุด แต่จากตัวเลขผลสำรวจแรงงานไทย ช่วงเดือนเม.ย.นี้ ส่วนใหญ่มีหนี้สินเฉลี่ยกว่า 2 แสนบาท ต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 5.90% เทียบกับปีที่แล้ว สูงที่สุดในรอบ 14 ปี แต่หากยิ่งปรับค่าแรงขั้นต่ำสูงแบบก้าวกระโดดจาก 313-336 บาท ไป 492 บาท ราคาสินค้าที่สูงอยู่แล้วก็ต้องยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เพราะต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น