น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟชบุ๊กส่วนตัว “Bow Nuttaa Mahattana” ในหัวข้อเรื่อง “นับถอยหลัง 120 วัน อะไรที่ต้องมีก่อนเปิดประเทศ?” โดยมีเนื้อหาสำคัญความว่า
การประกาศเป้าหมาย 120 วัน เพื่อนำสู่การเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมาโดยนายกรัฐมนตรี เป็นเป้าหมายที่ได้รับการตอบรับจากภาคเอกชน … แน่นอนว่ากลุ่มผู้ประกอบการระดับบริหารล้วนเข้าใจว่าการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเคยทำรายได้เป็นสัดส่วนสูงถึง 10% ของ GDP คิดเป็นเงินนับล้านล้านบาทในแต่ละปี และสำคัญมากสำหรับระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะในวันที่เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจดับแทบครบทุกตัว แต่ในอีกทางเสียงของประชาชนจำนวนหนึ่งกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะยังผวาและหวาดกลัวกับตัวเลขผู้ติดเชื้อ ประกอบกับความไม่มั่นใจในศักยภาพของรัฐบาลในการบริหารสถานการณ์โดยเฉพาะการจัดการวัคซีนในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในฐานะประชาชนผู้ติดตามสถานการณ์และยุทธศาสตร์การบริหารสถานการณ์โควิด คิดว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำและต้องมีก่อนจะบรรลุเป้าหมายได้จริง จึงขอเสนอความเห็นถึงสิ่งที่คิดว่าขาดไม่ได้ไว้ดังนี้
1. Prioritization การจัดลำดับความสำคัญ กำหนดกลุ่มกิจการสำคัญ และเมืองท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่ต้องมีแน่ๆในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบและผ่านการตรวจเชื้อก่อนเดินทางแล้ว คือพื้นที่และสถานบริการที่พร้อมให้บริการ ซึ่งนั่นหมายถึงความพร้อมทั้งในภาคการท่องเที่ยว และความพร้อมทางสาธารณสุขที่จะดูแลนักท่องเที่ยวได้หากเกิดมีการติดเชื้อระหว่างการท่องเที่ยวในเมืองไทย จึงควรต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ ว่ากิจการประเภทใดบ้างที่ต้องได้รับการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ระหว่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในการให้บริการ และความพร้อมด้านสุขอนามัยของผู้ให้บริการเอง ซึ่งถ้าทำพร้อมกันทั่วประเทศไม่ได้ ก็จะต้องกำหนดโซนจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการท่องเที่ยวให้พร้อมก่อน
2. Preparation การเตรียมความพร้อม ให้เงินสนับสนุนกิจการที่เกี่ยวข้องให้พร้อมเปิดบริการ ฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมาย เมื่อจัดลำดับความสำคัญทั้งในการทำโซนนิ่งและระบุประเภทกิจการแล้ว ก็สามารถดำเนินการตามแผนเพื่อเตรียมความพร้อม ในทางปฏิบัติอาจหมายถึงการสำรวจความพร้อมของผู้ประกอบการ และให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อฟื้นฟูกิจการที่ขาดความพร้อมจากวิกฤตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารผับบาร์ โรงแรม ร้านนวด ผู้ให้บริการทัวร์ ขนส่งสาธารณะ หรือร้านค้าต่างๆสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งความพร้อมเหล่านี้จะช่วยสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เป็นปกติมากที่สุด ไม่เซ็ง ซบ เซา นอกจากนี้ การระดมฉีดวัคซีนในพื้นที่ดังกล่าวรวมถึงกลุ่มเป้าหมายนอกพื้นที่ให้ได้ถึงระดับที่ตั้งเป้าไว้ก็มีความสำคัญ เพราะเมื่อมีการเปิดพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยวแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยก็จะเข้าไปร่วมใช้บริการ จึงต้องมีการป้องการการแพร่เชื้อระหว่างคนไทยด้วยกันเองด้วย
3. Precaution ความรอบคอบ ตั้งเกณฑ์กรองนักท่องเที่ยวและขั้นตอนการตรวจสอบที่รัดกุม มีแผนสำรองและการชดเชยหากต้องยกเลิก การตั้งหลักเกณฑ์ที่รัดกุมในระดับที่สมเหตุสมผลและสื่อสารล่วงหน้าจะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้ตัวล่วงหน้าว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรหรือคาดหวังอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องวางแผนล่วงหน้า คุณสมบัติอย่างไรบ้างที่เราจะให้ผ่านเข้าประเทศ ต้องฉีดวัคซีนล่วงหน้าให้ครบถ้วนอย่างไร การคัดกรองเชื้อก่อนบิน หรือการระบุกลุ่มประเทศปลอดภัยก็เป็นไอเดียที่เราสามารถประยุกต์จากประเทศที่เคยทำมาแล้ว นอกจากนี้ ทุกฝ่ายคงรับรู้ได้ตรงกันว่าทุกอย่างมีความเสี่ยงและเชื้อโควิดก็มีพัฒนาการใหม่ๆอยู่เสมอ ดังนั้นสิ่งที่ต้องมีเสมอคือ “แผนสำรอง” และความพร้อมที่จะยืดหยุ่น ปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ในทุกรูปแบบ แม้กระทั่งการยกเลิกที่จะต้องมีการชดเชยความเสียหายให้กับผู้เกี่ยวข้อง
4. Prerequisite สิ่งที่เป็นเงื่อนไขที่ต้องมีก่อน ระดับการระบาดในประเทศต้องลดลง จนมีเตียงว่างเพียงพอในระบบสาธารณสุข หัวใจของการรับมือกับโรคระบาดคือการปกป้องระบบสาธารณสุข เมื่อระบบสาธารณสุขอยู่ในภาวะที่ผ่อนคลายได้เมื่อไหร่ เราจะมีพื้นที่ให้รับความเสี่ยงและเกิดการขยับตัวทางเศรษฐกิจได้อีกมาก การตั้งเป้าหมายจำนวนเตียงคนไข้ที่ว่างลงในระยะเวลาที่เหมาะสมก่อนถึง 120 วัน (เช่น อีก 60 วันนับจากนี้เราจะต้องมีจำนวนเตียงว่างจากผู้ป่วยสะสมที่ลดลง 5,000+ เตียง) จึงเป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่จะทำให้ทุกคนมองเห็นภาพความเป็นไปได้จริง อัตราการฉีดวัคซีนในโซนสำคัญให้ได้ตามแผนจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญ
เพราะความเสี่ยงที่แท้จริงของการเปิดประเทศไม่ได้เกิดจากนักท่องเที่ยวที่ผ่านการคัดกรองและฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามา แต่คือการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหมู่คนไทยด้วยกันเองจากการออกไปใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติมากขึ้นระหว่างที่เศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัว สุดท้าย การสื่อสารกับประชาชนอย่างสม่ำเสมอถึงแผนงานและสถานการณ์ปัจจุบันตามความเป็นจริงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ทุกขั้นตอนสำคัญและมีความพร้อมกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง เพราะหากทำได้จริง คนไทยก็จะต้องเป็นเจ้าบ้านผู้สามารถต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจได้อีกครั้ง ไม่ใช่ด้วยแววตาของความหวาดกลัวตั้งข้อรังเกียจจากการขาดข้อมูลและทิศทางที่ชัดเจน