วันนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันนี้สมาคมฯได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ส.ส. และวุฒิสภา เพื่อขอให้เป็นเจ้าภาพในการพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเอาผิดพระและสีกาที่เสพเมถุน อันเป็นการกระทำผิดพระธรรมวินัยขั้นปาราชิก ให้มีโทษทางอาญา ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีของสมีกาโตะและสีกา ได้ออกมายอมรับกันว่าได้ร่วมกันเสพเมถุนในรถบนสันเขื่อน จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ จนทำให้พระกาโตะต้องลาสิกขาไปแล้ว กลายเป็นสมีซึ่งต้องห้ามไม่สามารถกลับมาบวชเป็นพระได้อีกตลอดชีวิต แต่ในทางโลกนั้นกลับไม่มีกฎหมายใด ๆ ที่จะเอาผิดผู้ที่ร่วมกระทำการดังกล่าวได้
“ศรีสุวรรณ” ร้องกมธ.ส.ส.-ส.ว. แก้กฎหมายให้พระและสีกาที่เสพเมถุนมีโทษอาญา ชี้ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียมหาศาล แต่กลับไม่มีโทษในทางโลก
ข่าวที่น่าสนใจ
แม้จะเป็นการทำให้พระศาสนาเสื่อมเสียอย่างมหาศาลก็ตาม ผิดกับประเทศลาวเพื่อนบ้านเราที่เขามีกฎหมายลงโทษผู้ที่กระทำการดังกล่าวในทางอาญา โดยมีโทษจำคุกถึง 3 ปีได้
ส่วนประเทศไทยกลับไม่มีกฎหมายที่บัญญัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวโดยตรงเลย มีแต่ประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 4 เป็นความผิดเกี่ยวกับศาสนา มาตรา 206-208 แต่ก็เป็นเรื่องของการเหยียดหยามศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องของวัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาเท่านั้น ไม่ได้บัญญัติเกี่ยวกับตัวบุคคลแต่อย่างใด ไม่ได้มีบทบัญญัติที่จะต้องเอาผิดผู้ที่กระทำการชั่วช้าเลวทรามโดยการเสพเมถุนในขณะเป็นพระ ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียแต่อย่างใดเลย
ส่วนในเรื่องทรัพย์สินเงินทองของพระที่ได้มาในขณะเป็นพระภิกษุนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1623 ระบุไว้แต่เพียงว่า ทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศนั้น เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพ ให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น เว้นไว้แต่พระภิกษุนั้น จะได้จำหน่ายไปในระหว่างชีวิต หรือโดยพินัยกรรม
ซึ่งไม่ได้บัญญัติป้องกันมิให้อลัชชีที่แอบเข้ามาบวชเป็นพระเอาผ้าเหลืองบังหน้าหากินสร้างชื่อเสียงมีเงินทองมากมาย จนสามารถนำไปปรนเปรอบำรุงบำเรอสีกาแอบโอนให้กันเป็นหมื่นเป็นแสนได้ หรือแอบนำไปให้ญาติซื้อที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติได้ หรือพระบางรูปเมื่อลาสิกขาแล้ว ยังสามารถขนเอาทรัพย์สินเงินทองติดตามตัวไปด้วย จนสามารถนำไปทำธุรกิจมากมาย โดยกฎหมายไม่สามารถทำอะไรได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-