ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลังตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบความโปร่งใสการประมูลโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก นั้น
นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า วันที่ 5 พ.ค.65 จะเสนอต่อนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งอาจจะมีรองปลัดกระทรวงการคลัง มาเป็นประธาน โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นดังกล่าว เป็นการรีเช็คอีกครั้งว่า กระบวนการที่ผ่านมาเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การเสนอต่อรมว.คลัง เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบดังกล่าว นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม16 ให้ความเห็นว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพนั้น คงไม่เกิดประโยชน์ เป็นไปไม่ได้ที่ข้าราชการจะกล้าเอาผิดรัฐมนตรี ควรให้หน่วยงานอื่นที่มีความเป็นอิสระมาตรวจสอบ เช่น สถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้รับผิดชอบ เพราะไม่สามารถใช้อิทธิพลการเมืองมาสั่งได้ จึงอยากฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้
ความเห็นดังกล่าว สอดคล้องกับนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่เห็นว่ากรรมการตรวจสอบ ควรจะเป็นบุคคลจากภายนอก เช่น วิศวกรรมสถานฯ หรืออัยการ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
จากเรื่องดังกล่าว อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า นโยบาย ณ ขณะนี้ จะต้องมีการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 วัน แต่ถ้ามีกรรมการจากภายนอก จะเป็นไปได้ไหม ที่จะทำให้เสร็จภายในกำหนด สาเหตุที่ต้องภายใน 15 วัน เพราะความล่าช้าที่เกิดขึ้นแต่ละวัน หมายถึงผลประโยชน์ของรัฐสูญเสีย และจะมีความรับผิดทางละเมิดเกิดขึ้นด้วย นอกจากความรับผิดทางอาญา
ส่วนข้อถามที่ว่า หากตั้งคนในกระทรวงการคลัง จะทำให้เกิดความเคลือบแคลงหรือไม่ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ก็มีสิทธิจะสงสัยได้ แต่ต้องตรงไปตรงมา เพราะมีหน่วยงานภายนอกที่ตรวจสอบอยู่แล้ว อย่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ตรวจสอบได้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) หรือผู้ตรวจการแผ่นดินก็ตรวจสอบได้ แต่ขณะนี้ถามว่า เราจะรอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบเสร็จสิ้นหรือ หรือว่าให้องค์กรอิสระตรวจสอบหรือ ถ้าดำเนินการไปแล้ว สมมติว่าลงนามในสัญญาไปแล้ว ถ้าท้ายที่สุดองค์กรอิสระหรือศาลชี้ขาดออกมาว่า มันไม่ชอบ ก็ต้องรับผิดกันหมด