วันที่ 7 พ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มี นางนิภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ชาว ต.โคกเหล็ก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาร้องสื่อ ว่าอยากให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือลูกสาววัย 25 ปี และเพื่อนลูกสาววัย 35 ปี ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา แล้วพยายามบังคับให้ทำงาน เกรงว่าลูกสาวจะเป็นอันตราย
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อลูกสาวนางนิภา อายุ 25 ปี ซึ่งถูกขังไว้ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนถูกขังไว้ในห้องที่กำลังตกแต่งเป็นสถานที่ทำงานคอลเซ็นเตอร์ โทรหลอกชาวไทย เป็นตึกใหม่หลายคูหา อยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 2-3 กม.เท่านั้น สามารถใช้โทรศัพท์ได้ โดย บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีคนไทยชวนไปทำงานดูเวบพนัน อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา ให้เงินเดือน 20,000-30,000 บาท จึงตัดสินใจไปกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ซึ่งคบหากันเป็นแฟน ไปด้วยกัน 2 คน
โดยเช้าทางช่องทางโรงเกลือ จ.สระแก้ว มีคนไทยพาออกไป จากนั้นได้มีชาวต่างชาติเป็นคนจีน มารับตัวไป แล้วเอาไปกักไว้ ไปเจอชายชาวเชียงราย อีกคนรวมเป็น 3 คนที่อยู่ด้วยกัน กระทั่งมารู้ว่าจะให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ จึงปฏิเสธการทำงาน และบอกว่าจะขอกลับบ้าน แต่คนจีนซึ่งคาดว่าเป็นหัวหน้า บอกว่ากลับไม่ได้ เพราะมี”สัญญา 6 เดือน”ตนพยายามอ้อนวอนว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นผล เขาบอกว่าไม่เอาเงิน
และยังบอกด้วยว่า หลังจากหัวหน้ารู้ว่าพวกตนซึ่งตอนนี้อยู่ด้วยกัน 3 คน ไม่อยากทำงาน ได้พาพวกตนไปดูสิงโตแม่ลูก พร้อมขู่ว่า ถ้าคิดหนีจะปล่อยให้มากัด เมื่อดูไปรอบๆแล้ว ยังพบ รปภ.มีเครื่องช็อตไฟฟ้าเป็นอาวุธอีกนับ 10 คนอยู่ด้านนอก
นอกจากนี้หัวหน้า ยังพยายามเปิดห้องๆหนึ่งให้ดู ซึ่งมีกลิ่นยาเสพติดคละคลุ้ง อาจจะหมายถึงว่า หากไม่ทำงานจะอัพยาให้ ตอนนี้ตนรู้สึกผวาเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงอยากจะฝากถึง จนท.ฝั่งไทยให้เข้าไปช่วยเหลือตนเป็นการด่วน เพราะเริ่มถูกคุกคามแล้ว
ด้านนางนิภา บอกว่าตอนนี้ติดต่อทางโทรศัพท์กับลูกสาวไม่ได้แล้ว โดยลูกสาวได้ส่งไลน์มาว่าถูกทำร้ายแล้ว เพราะแอบไปติดต่อกับทางบ้านขอความช่วยเหลือ รู้สึกเป็นห่วงลูกมาก อยากจะให้บิ๊กโจ๊ค หรือหน่วยงานใดก็ได้ ให้ความช่วยเหลือลูกสาวที่กำลังอยู่ในภาวะอันตรายอยู่ในขณะนี้.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์