ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ ลงพื้นที่ไปยังอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เกาะติดกรณีเจ้าสำนักวิปลาศ เก็บศพคนตายพร้อมกับเผยแพร่ลัทธิบูชาสุดพิสดารให้ดื่ม หรือทาน้ำเหลืองจากศพที่เก็บไว้ในบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าบุกค้นจับกุมเจ้าสำนัก หรือ“พระบิดา”ที่ชาวบ้านเรียก พร้อมแจ้งข้อหา และนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดภูเขียวฝากขัง โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ศาลจังหวัดภูเขียวพิจารณาก่อนอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว วางเงินหลักทรัพย์ 50,000 บาท มีลูกศิษย์เป็นคนยื่นคำร้องขอประกันตัวให้
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่ว่าการอำเภอคอนสารมีกลุ่มชาวบ้านจากหลายตำบล ในพื้นที่อำเภอคอนสาร มารวมตัวกันที่หน้าอำเภอประมาณ 500 คน ใช้ชื่อกลุ่มว่า “ชาวอำเภอคอนสารไม่เอาลัทธิประหลาด” เพื่อมาแสดงจุดยืนและกดดันไปยังเจ้าหน้าที่ หลังทราบข่าวว่านายทวีเจ้าสำนักได้รับการประกันตัวออกมาจากศาลเมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างยืนยันเป็นเสียงกันว่า เกรงว่าเจ้าสำนักจะกลับมาเปิดอาศรมขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งการประท้วงในเช้าวันนี้นับเป็นวันที่ 2 แล้วหลังจากที่เมื่อวานนี้ชาวบ้านอำเภอคอนสารได้ประท้วง ในเหตุผลเดียวกันคือการขับไล่ ลัทธิวิปลาสให้ออกไปจากพื้นที่อำเภอคอนสารชาวบ้านตำบลทุ่งนาเลาที่อยู่ใกล้กับตำบลดงกลางที่ตั้งของอาศรม บอกว่า ตนเองเป็นตัวแทนของชาวบ้านตำบลทุ่งนาเลา ยืนยันไม่ต้องการให้เจ้าสำนักสุดพิสดารรายนี้ กลับมาอยู่ที่อำเภอคอนสารอีก เชื่อว่าชาวบ้านตำบลอื่นๆน่าจะคิดเช่นเดียวกัน ส่วนตัวมองว่าพฤติกรรมลัทธิความเชื่อต่างๆของอาศรมแห่งนี้ ผิดหลักการรักษาคนหรือหลักวิทยาศาสตร์ บอกตามตรงว่ารู้สึกอับอายและเสื่อมเสียเป็นอย่างมากที่นี่คนแบบนี้อยู่ในอำเภอคอนสาร
สวนทางคดีล่าสุด พันตำรวจเอกวัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร บอกว่า ในส่วนของการยืนยันบุคคลศพทั้ง 11 ศพที่พบภายในอาศรม สามารถระบุตัวบุคคลได้แล้วว่าเป็นใครบ้าง เนื่องจากว่า เจ้าหน้าที่อำเภอคอนสารได้สืบค้นทะเบียนราษฎร์ พบ 10 ศพ มีใบมรณะบัตรยืนยันการเสียชีวิต ทั้งหมดเป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ เช่น ป่วยตาย ไม่มี ใครเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติหรือถูกฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบและชันสูตร ให้ละเอียด เพราะแต่ละศพที่เสียชีวิตญาติแค่มาแจ้งที่อำเภอแต่ไม่ได้นำศพไปชันสูตร ตามหลักกระบวนการยุติธรรม
ส่วนอีก 1 ศพ ยังไม่มีใบมรณบัตรยืนยันการเสียชีวิต แต่จากการสอบถามชาวบ้านและนายทวีเจ้าสำนัก ทราบว่าเป็นแม่ของนายทวี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 15 ปี ซึ่งก็ต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด โดยตกแต่ละลายยังไม่สามารถระบุเวลาการตายที่ชัดเจนว่าตายเมื่อไหร่ตายมาแล้วกี่ปี
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งให้นายอำเภอคอนสารเตรียมเข้าตรวจค้นอาศรมแห่งนี้อีกรอบพร้อมกับประสาน มาที่สภ.คอนสารไปขออำนาจศาลนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ คาดว่าช่วงบ่ายนี้กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจจะเข้าค้นอาศรมแห่งนี้อีกรอบเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
