วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ดร. วิจักขณ์ ฉิมโฉม เลขาธิการมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก กล่าวว่า สถานการณ์ ภัยแล้งจากธรรมชาติปีนี้ส่งผล กระทบต่อการขยายพันธุ์นกเงือกเป็นอย่างมากแต่ละปีที่ผ่านมานกเงือกจะเข้ารังประมาณ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มาปีนี้นกเงือกเข้ารังประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และ เหลืออยู่จริงประมาณ 30% ที่กกไข่และออกลูก จากปรากฎการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องมาจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา บ้านเราประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ต้นไม้ในป่าธรรมชาติ ออกผล น้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้นกซึ่งเป็นสัตว์ที่กินผลไม้ หาอาหารกินได้น้อย ทำให้นกตัวผู้ไม่มีอาหารไปป้อนนกตัวเมีย หรือแม่นกที่กกไข่อยู่ในโพรงขาดอาหาร จึงเจาะโพรง ออกมาก่อนเวลา ทิ้งไข่ไว้โดยไม่ได้ฟัก ทำให้ปริมาณลูกนกเงือกปีนี้ ออกมาน้อยกว่าทุกปี
อีกปัจจัยหนึ่งก็มาจาก กรณีนักท่องเที่ยวและช่างภาพ มาท่องเที่ยว ในพื้นที่บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มาเจอนกเงือก นกกก นกเงือกกรามช้าง หรือนกแก๊ก พี่กำลังกินผลไม้ อยู่บริเวณข้าง 2 ข้างทาง นักท่องเที่ยวและช่างภาพถ่ายภาพ นกเงือกเป็นเวลาที่นานเกินไป ทำให้นก ตัวผู้ ไม่กินอาหารและไม่นำอาหารไปป้อนนกตัวเมียที่กำลังกกไข่อยู่ในโพรงไม้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ซึ่งก็อยาก จะให้ นักท่องเที่ยวละช่างภาพ ใช้เวลาอันสั้นๆในการถ่ายภาพนกเงือกเพราะนกบางชนิดต้องการความเงียบสงบ ในส่วนของการทำรังนกเงือกนั้นทำรังเพิ่มขึ้นทุกปี ปัญหาก็คือปากโพรงนกแคบ มีน้ำแช่ในโพรง ก็ต้องเจาะรู เอาน้ำออก โดยโพรงๆหนึ่งจะมีอายุการใช้งานประมาณ 9 ปีถึง 10 ปีโดยปีนี้ ธรรมชาติเปลี่ยนไปมาตลอดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบกับนก.
ภาพ/ข่าว ประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา