นอกเหนือจากประเด็นปัญหาการฟ้องร้องในแง่ความไม่ปกติที่เกิดขึ้นจากการประมูลคัดเลือกเอกชนจัดให้เช่า/บริหาร ระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ในพื้นที่ ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี , ระยอง มูลค่าสูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท ถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องตัดสินใจ สั่งให้ชะลอกำหนดการเซ็นสัญญาระหว่าง กรมธนารักษ์ กับ บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง เพื่อดำเนินการตรวจสอบทุกระบบขั้นตอนการประมูล เพื่อความโปร่งใส ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน เหมือนกับบางโครงการสัมปทานรัฐ ที่กำลังเป็นปัญหามีการฟ้องร้อง ทำให้เกิดความล้าช้าไปกว่า 1 ปี อย่างโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม
อีกจุดหนึ่งที่ Top News ติดตามมาตั้งแต่ต้นก็คือ กรณีเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2565 ตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ “อีสท์ วอเตอร์” ได้ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และทาง ก.ล.ต. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบการบริหารงานของ นางอัศวินี ไตลังคะ ประธานคณะกรรมการบริษัทและกระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท เนื่องจากอาจมีการฝ่าฝืนจรรยาบรรณทางธุรกิจ ข้อบังคับบริษัท กฎบัตรคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนของบริษัท และความผิดตามหลายมาตราของหมวด 3/1 ว่าด้วยเรื่องการบริหารกิจการของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ในส่วนของหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารตามมาตรา 89/7 มาตรา 89/8 มาตรา 89/10 มาตรา 89/11 มาตรา 89/12 และมาตรา 89/14 พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และหมวด 6 ว่าด้วยเรื่องคณะกรรมการตามมาตรา 85 มาตรา 88 ของ พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 แล้ว
นอกจากนี้ ตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นของ “อีสท์ วอเตอร์” ยังให้ข้อมูลว่า มีเหตุอันควรสงสัยหลายประการว่า นางอัศวินี ประธานคณะกรรมการบริษัทฯ อาจมีการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อจรรยาบรรณในทางธุรกิจว่าด้วยเรื่องความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ รายการที่เกี่ยวโยงกัน และ การทำธุรกรรมระหว่างกันของกลุ่มบริษัท