“ทนายอนันต์ชัย” ชี้สื่อ 2 สำนักดัง ไร้จรรยาบรรณ เตรียมช่วยทำคดี “หลวงปู่แสง”

ทนายอนันต์ชัย เตือนหมอปลาและสื่อมวลชน 2 สักนักดัง ควรศึกษาข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนกระทำการละเมิดหรือหมิ่นผู้อื่น เผยเตรียมว่าความคดีให้หลวงปู่แสง ให้ถึงที่สุด

กรณีที่ นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร และสื่อมวลชนหลายสำนัก เข้าตรวจสอบหลวงปู่แสง ญาณวโร พระเกจิชื่อดัง อายุ 98 พรรษา และป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ที่อาศัยอยู่ในที่พักสำนักสงฆ์ พื้นที่บ้านดงสว่าง ตำบลโคกนาโก อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร โดยหลวงปู่แสงถูกกล่าวหาว่าลวนลามผู้หญิง ในกรณีมีคลิปหลวงปู่แสง พร้อมลูกศิษย์ชาย 3 คนนั่งประกบ เมื่อญาติโยมผู้หญิงเข้ามากราบไหว้ จะถูกเรียกเข้าไปใกล้ๆ ลูบศีรษะ โอบกอด และพยายามดึงเข้าไปหอมแก้ม แต่กระแสข่าวกลับตีกลับคิดว่าเป็นการจัดฉากทำให้หลวงปู่แสงและศาสนาพุทธได้รับความเสื่อมเสีย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยก่อนหน้านี้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความปกป้องหลวงปู่แสง ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ทำกับหลวงปู่แสงได้อย่างไร ผมดูข่าวเมื่อคืนที่มีกลุ่มบุคคลพานักข่าวไปบุกหาหลวงปู่แสง ญาณวโร ที่วัดป่าดงสว่างธรรม จ.ยโสธร กล่าวหาท่านต่างๆ นานา โดยเฉพาะนักข่าวใช้ถ้อยคำผรุสวาท หัวเราะเยอะท่าน ระวังนรกจะกินกบาลเอา หลวงปู่แสงท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบ เป็นพระป่าสายพระกรรมฐาน ท่านเป็นโรคอัลไซเมอร์ พวกคุณทำอะไรกับหลวงปู่ ผมรับไม่ได้จริงๆ หากศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่แสง จะดำเนินคดีกับพวกนี้ ผมในฐานะเป็นผู้ปฎิบัติธรรมสายกรรมฐาน ผมยินดีเป็นทนายความให้ครับ ติดต่อผมมาน่ะครับ”

ทีมข่าว TopNews ได้สอบถามทนายอนันต์ชัย ถึงการโพสต์ข้อความดังกล่าวและพูดคุยถึงการกระทำของหมอปลาและสื่อมวลชนว่าเข้าข่ายความผิดข้อใดบ้าง โดย ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า โดยหลักการมันไม่ใช่หน้าที่ของหมอปลา หรือ สื่อมวลชน ที่จะไปดำเนินการจับพระ, สึกพระ, ตรวจสอบพระ มันมีกฎหมายหน่วยงานที่รองรับก็คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องประจำท้องที่ เพราะฉะนั้นไม่มีอำนาจหน้าที่ใดที่จะไปทำแบบนั้น ควรจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ แต่การที่นำสื่อมวลชนที่เกาะกินนอนอยู่กับหมอปลาบุกเข้าไปแบบนั้นมันไม่ถูกต้อง

แต่การกระทำดังกล่าวมันฟ้องว่า เป็นการทำเพื่อเรียกเรตติ้ง หรือ เพื่อทำให้สินค้าของคุณขายดี หรือ เพื่อทำลายพระพุทธศาสนา อันนี้ตนไม่ทราบว่าทำไปเพื่ออะไร อีกมุมหนึ่งมองว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่ เพราะมีการถ่ายคลิปวิดีโอเลือกมุมได้ดีเกินไป ซึ่งหลวงปู่แสงท่านเป็นโรคอัลไซเมอร์ ถือว่าท่านขาดเจตนา ในทางกฎหมายอาญา ถือว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด เช่นกันกับในส่วนของพระธรรมวินัย จะอาบัติ หรือ ผิดพระธรรมวินัยหรือไม่นั้นอยู่ที่เจตนา ซึ่งกรณีของหลวงปู่แสงท่านเป็นโรคทางสมองจึงนับว่าไม่มีเจตนา นอกจากนี้ยังพูดถึงการทำหน้าที่สื่อของนักข่าวผู้หญิงช่องหนึ่ง ซึ่งไม่เหมาะสมที่ไปยืนค้ำหัวหลวงปู่แสง และใช้คำพูดไม่สุภาพถามจะจับผิดท่าน และมีนักข่าวผู้ชายอีกช่องหนึ่ง ที่ไปกับหมอปลาทุกครั้ง

จึงอยากฝากเตือนไปถึงหมอปลาและสื่อมวลชนถึงการบุกไปยังกุฏิพระตามเคสต่างๆแล้วไปล้อมหน้าล้อมหลัง เข้าข่ายหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ซึ่งการบุกเข้าไปโดยไม่มีอำนาจมันผิดต่อหลักข้อกฎหมาย หากมาเจอกับตนที่เป็นผู้ว่าคดีความพวกคุณเหนื่อยแน่นอน ซึ่งเมื่อวานนี้ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ที่เป็นทนายส่วนตัวของหมอปลา ก็ได้โทรมาพูดคุยและขอโทษกับตนเป็นการส่วนตัวแล้ว ซึ่งทนายไพศาล ก็ยอมรับว่าตนผิดที่ไม่ได้ตรวจสอบดูเสียก่อนและไม่รู้ด้วยว่า หมอปลาจะลงไปจับผิดหลวงปู่แสงซึ่งหลังจากนี้ก็จะทำงานให้รอบคอบ

 

การกระทำของพวกคุณนั้นตนกำลังตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดในข้อใดบ้าง แต่เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาททางโฆษณา โดยเฉพาะพี่นักข่าวหาว่าหลวงปู่แสงไปจับหน้าอก ส่วนการบุกรุกเข้าสถานที่นั้นกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบ ถึงแม้จะเข้ามาพร้อมกับสำนักพุทธหรือหน่วยงานต่างๆมาก็ตาม แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่อันควรซึ่งตนอยากให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐาน

ทั้งนี้ ในวันที่ 15 พ.ค. 2565 ตนจะเดินทางไปยังสำนักสงฆ์ของหลวงปู่แสงที่ จ.ยโสธร ตรวจสอบหาข้อมูลเตรียมดำเนินคดีกับหมอปลาและนักข่าว 2 สำนัก “ที่มีท่าทีกิริยาไม่เหมาะสมไร้จรรบาบรรณ พูดจาสามหาว เป็นเด็กเมื่อวานซืนไม่รู้จักบุญคุณโทษ ระวังนรกจะกินกบาล” ซึ่งเรื่องนี้จะไม่ปล่อยปละละเลยไปแน่นอนเพื่อเป็นบทเรียน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘โฆษก ทบ.’ แจง ‘เจ้ากรมยุทธฯ’ ทำร้ายทหาร เหลือสอบพยาน 2-3 ราย ทำได้แค่ตักเตือน ส่วนคดีอาญา เจ้าทุกข์ต้องดำเนินการ
"อ.ปานเทพ"กางเอกสาร JC2544 อ้างไทย-กัมพูชา เคยรับรอง MOU 44 เป็นสนธิสัญญา
"ดร.ศิลปฯ" อดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนทวีธาภิเศก ปี 67 ปักธงสนับสนุนด้านกีฬากับเยาวชน
"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต
ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น