รู้จัก "พระบิดา" ของจริง กับเรื่องราวเรื่องราวสยองโลกช่วงต้นศตวรรษ 20 ดีกรีความโหดระดับ 10 กะโหลก สั่งสาวกกว่า 909 คน ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายหมู่
ข่าวที่น่าสนใจ
“พระบิดา” สุดโหดนี้ ชื่อว่า จิม โจนส์ (Jim Jones) เกิดในครอบครัวยากจนเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1931 ในชุมชนเคร่งศาสนา บนพื้นที่ชนบทของรัฐอินดีแอนา สหรัฐฯ เขาเป็นคนที่ศรัทธาในศาสนาคริสต์เป็นอย่างมาก สามารถท่องจำคำภีร์ไบเบิ้ลได้ตั้งแต่ 8 ขวบ และเทศน์ศาสนาสอนเด็ก ๆ บริเวณในชุมชน ราวกับเป็นนักบวชจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น
จนกระทั่งอายุ 17 ปี เขาไปเป็นนักเรียนฝึกหัด เพื่อที่จะเป็นบาทหลวงนิกายเมโธดิสต์เต็มตัว และได้แต่งงานกับมัลเซลีน บอลด์วินด์ ในวัย 21 ปี ก่อนจะกลายเป็นนักเผยแพร่ศาสนาอิสระในเวลาต่อมา และได้กลายเป็นนักบวชทรงเสน่ห์ที่หลายคนเลื่อมใส ด้วยความที่เขามักจะเทศน์เนื้อหาต่อต้านการเหยียดผิว จึงทำให้เขามีสาวกเป็นคนผิวสีจำนวนมาก จนรวมตัวกันสร้างลัทธิโบสถ์มวลชน ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนา
แต่ระหว่างที่เผยแพร่ศาสนานั้น กระแสตอบรับของเขากลับถูกต่อต้านจากสื่อมวลชนที่มักจะเขียนบทความโจมตีเสมอ จนทำให้เขาเริ่มเกิดความวิตก ก่อนจะโน้มน้าวสาวกให้ย้ายไปที่ประเทศกายอานา ในอเมริกาใต้ โดยอ้างว่า ถ้าย้ายตามเขาไป เขาจะสร้างดินแดนยูโทเปีย ในชื่อ Jonestown แต่แล้วฝันก็สลายลงในพริบตา เมื่อเหล่าสาวกกลับพบว่าเรื่องราวที่อ้างนั้นไม่ได้เป็นจริงแต่อย่างใด พวกเขาถูกกดขี่ให้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ หากขัดขืนจะถูกลงโทษ จะหนีก็ไม่ได้ เพราะ พาสปอร์ตของพวกเขาถูกยึดไปหมดแล้ว สำหรับใครที่พยายามเขียนจดหมายติดต่อทางบ้าน จะถูกเปิดอ่านทั้งหมดก่อน ด้วยอาการหวั่นวิตกที่เริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ โจนส์เริ่มมีอาการจิตหลอน และติดยาอย่างรุนแรง จนมโนภาพไปเองว่ารัฐบาลอเมริกาจะมาจัดการเขา จนถึงขั้นบังคับให้เหล่าสาวกซ้อมกินยาฆ่าตัวตายหมู่กันเลยทีเดียว
สำหรับคนที่ไม่ได้ตามโจนส์ไปก็เริ่มตะหงิดใจแปลก ๆ เป็นห่วงคนรู้จักที่ตามเขาไปอยู่ Jonestown จึงไปขอความช่วยเหลือจากสมาชิกสภารัฐเดโมแครตอย่าง ลีโอ ไรอัน (Leo Ryan) ให้ช่วยพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสถานที่นั้นที แน่นอนว่าคำขอดังกล่าวได้ผล ไรอันพาเจ้าหน้าที่และบรรดานักข่าวบินไปที่ Jonestown ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 1978 เมื่อเขาไปถึงก็ได้รับการต้อนรับจากจิม โจนส์ และทีมงานเป็นอย่างดี ทุกอย่างปกติ ไม่มีพิรุธหรือจุดน่าสงสัยแต่อย่างใด
จนวันรุ่งขึ้น ระหว่างที่พวกเขากำลังเตรียมตัวกลับ เหล่าสาวกที่ตาสว่างก็รีบมาขอร้องให้พาพวกเขาออกจากที่นี่ที กลายเป็นจุดระเบิดที่ทำเอา จิม โจนส์ ถึงกับสติแตก ลูกน้องของเขาตัดสินใจควักมีดแล้วพุ่งเข้าแทงไรอัน แต่โชคยังดีที่เขาสามารถหนีออกได้ แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยจนกว่าจะบินออกมาจากโจนส์ทาวน์ได้ ซึ่งจิม โจนส์สั่งให้ทีมงานให้ไปขวางรันเวย์ไม่ให้เครื่องบินบินขึ้นได้ ก่อนจะสังหารไรอันและผู้ติดตามสำเร็จ แต่ผู้ติดตามที่เหลือ และสาวกบางส่วนก็พากันหนีตายเข้าป่า
พอรู้ว่ามีคนหนีไปได้ เขาก็ยิ่งประสาทหนักกว่าเดิม เชื่อว่า ทหารอเมริกันจะบุกมาแน่ ๆ เขาเลยสั่งให้สาวกทุกคนมารวมตัวกันที่หอประชุมกลางทำพิธีฆ่าตัวตายหมู่ ด้วยการดื่มเครื่องดื่มน้ำผสมไซยาไนด์ โดยเริ่มจากเด็กก่อนตามลำดับ โดยที่มีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธยืนคอยบังคับอยู่ หลังจบพิธี จิม โจนส์ ก็ยิงปืนเข้าขมับตัวเอง เสียชีวิตบนเก้าอี้บนเวทีในหอประชุมกลาง โชคยังดีมีบางคนที่สามารถรอดพิธีสุดโหดดังกล่าวไปได้มากถึง 85 คน บางคนเลือกที่หนีเข้าป่า ซ่อนอยู่ในคูน้ำ ซ่อนในหอนอนไม่ออกไปร่วมพิธี บางคนก็แกล้งตาย และโชคดีที่สุด ก็คือ ทีมบาสเก็ตบอลที่ออกไปแข่งต่างเมืองในวันนั้นพอดี
เมื่อ FBI เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ก็พบกับภาพชวนขนหัวลุก ด้วยซากผู้เสียชีวิตเกลื่อนทั่ว Jonestown รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 909 ศพ เป็นเด็กถึง 1 ใน 3 กว่า 304 ศพ นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่คร่าชาวอเมริกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 9/11
ข้อมูล : theguardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง