“ทอม เครือโสภณ” ตีบทเศร้า! อ้างจดหมายพ่อคนหนึ่ง เขียนถึงเรื่องขอเศษอาหารเลี้ยงครอบครัว

ประเทศไทยมาถึงตรงนี้ได้ยังไง? คำถามจาก ทอม เครือโสภณ นักธุรกิจชื่อดัง หลังอ่านจดหมายที่คุณพ่อรายหนึ่งเขียนมาขอเศษอาหารที่กินเหลือเอาไปเลี้ยงครอบครัว แถมยังบอกเตรียมคิดจะขายอวัยวะ เจอพิษโควิดออกไปขายของที่ตลาดไม่ได้

วันที่ 25 มิถุนายน ทอม เครือโสภณ นักธุรกิจดัง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกักตัวที่โรงแรม ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก Tom Krues ด้วยใบหน้าเศร้า บอกเล่าเหตุการณ์ที่ได้รับแชตจากคุณพ่อรายหนึ่ง ในนั้นมีจดหมายที่เขียนมาขอความช่วยเหลือจากเขา โดยขอแค่เศษอาหารที่กินเหลือในแต่ละมื้อ เนื่องจากจะนำไปเลี้ยงภรรยา และลูกสาวอีก 2 คน ที่ไม่มีข้าวกิน หลังขาดรายได้จากช่วงโควิด 19 จนไม่สามารถทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้

เนื้อหาในจดหมายดังกล่าว ระบุว่า “คุณทอมครับ เห็นในเฟซบุ๊กมีคนส่งอาหารมาให้กินเยอะ ถ้าคุณกินไม่หมดช่วยกรุณาส่งมาให้ครอบครัวผมด้วย กำลังจะอดตายของจริงครับ ตลาดที่ผมไปขายของปิด เหลือตลาดเล็ก ๆ แต่ขายยังไงก็ไม่ได้ยอดเพราะไม่มีลูกค้าเลย ผมมีครอบครัวที่อบอุ่น ภรรยา และลูกชาย 1 ลูกสาว 1 คน ตอนนี้มีเงินไม่พอค่าเช่าที่ 100 บาท เพื่อจะเอาของไปขายที่ตลาดในวันเสาร์

คุณเชื่อไหมว่า ผมทำงานมาตลอดชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย ผมกำลังคิดว่าจะเอาอวัยวะในร่างกายของผมไปติดต่อขาย เพื่อให้ลูกและครอบครัวรอดจากการอดตายคราวนี้ครับ คุณเชื่อไหมว่า ผมน้ำตาลูกผู้ชายของผม ไหลตลอดที่เขียนจดหมายนี้ ดังนั้นถ้าอาหารที่กินเหลือช่วยกรุณาส่งมาให้ผมได้หรือไม่”

 

ภายหลังได้รับข้อความดังกล่าว คุณทอม ตอบไปว่า ตามมาตรการการกักตัวนั้น อาหารที่กินไม่สามารถนำออกไปส่งให้ได้ ดังนั้นจึงจะขอบริจาคเงินไปให้ได้หรือไม่ แต่คุณพ่อรายดังกล่าวระบุว่า เขาไม่อยากเป็นภาระของสังคม ไม่ต้องการเงินบริจาคเยอะ ขอแค่เงิน 100 บาทในการเช่าพื้นที่ขายของ ซึ่งภายหลังได้มีการโทร. ไปพูดคุย มีการส่งรูปครอบครัวและลูก ๆ มาให้ดู และคุณทอมได้มีการโอนเงินไปช่วยเหลือมากกว่า 100 บาทที่ขอมา

คุณทอม ระบุว่า เมื่อได้เห็นน้ำตาของพ่อรู้สึกเศร้าใจมาก โดยปัญหาที่เกิดนี้มาจากการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของรัฐบาล ต่อให้จะหาข้ออ้างอะไรมาก็ตาม แต่นายกรัฐมนตรีก็คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ที่มีคนไทยไม่มีกระทั่งเงินจะออกไปทำงาน ถามว่าในฐานะพ่อ ถ้าไม่ได้มียศ มีตำแหน่ง ถ้าลูกไม่มีกินท่านจะคิดอย่างไร อย่างเช่นรายนี้ เขาไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดที่ขอเศษอาหารให้ลูก แต่เขาก็ยอมทำ กรณีนี้ถือว่าเป็นภาพสะท้อนว่ายังมีคนไทยอีกเยอะในสังคมที่เดือดร้อนอย่างหนักแบบนี้

สุดท้ายต้องขอบคุณพ่อท่านนี้ที่ช่วยเปิดตาของตนให้เห็นว่า ปัจจุบันยังมีผู้คนลำบากอีกเยอะมาก ตนมองว่าประเทศจะมาถึงจุดนี้ไม่ได้ จุดที่พ่อตื่้นเช้ามาแล้วต้องร้องไห้ เพราะหาข้าวให้ลูกกินไม่ได้ หรือคิดจะขายอวัยวะเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว นี่ไม่ใช่ประเทศไทยที่ตนรู้จัก เมื่อรัฐบาล ผู้นำ ช่วยคนไทยที่เป็นพี่น้องเราไม่ได้ เราเองต้องมีจิตใจไม่แคบ ไม่เห็นแก่ตัว เราต้องช่วยกันเพื่อให้คนไทยรอดกันเองให้ได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น