ภายหลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายอนิวัติ ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย บริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด และ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด
ภายหลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายอนิวัติ ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย บริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด และ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด
ข่าวที่น่าสนใจ
หลังนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องทุกข์กล่าวโทษว่า ทั้ง 3 ราย ได้ร่วมกันจัดทำสื่อโฆษณาที่มีเนื้อหาเป็นการดูหมิ่น ล้อเลียน ผู้ป่วยและผู้พิการ และมีเจตนาในการพาดพิง ดูหมิ่น สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ได้รับความเสื่อมเสีย ระบุว่าเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งให้ติดตามบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตั้งแต่ทราบว่ามีการเผยแพร่โฆษณาดังกล่าวออกไป เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการนำเสนอสินค้า ที่มีเนื้อหาพาดพิงไปยังบุคคลที่มีอาการเจ็บป่วย มีความบกพร่องหรือความไม่เท่าเทียม
ทั้งนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า นายศรีสุวรรณ ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างน้อย 2 ข้อหา คือ มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะมีข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยทางผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา และดำเนินการสอบปากคำตัวแทนจากศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯ หรือ ศปปส. และได้ประสานงานกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ให้ตรวจสอบและทำการปิดกั้น URL ที่นำเสนอเนื้อหาไม่เหมาะสมดังกล่าวไปแล้ว 49 URL ทั้งลิงก์ที่นำไปโพสต์และแชร์
ส่วนการดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นอย่างน้อย 3 ราย ทั้งบริษัทผู้ผลิตเนื้อหา, บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มที่เป็นผู้เผยแพร่ รวมถึงตัวนักแสดง ซึ่งก็จะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน และนำคำให้การมาประกอบพยานหลักฐานว่าใครจะเข้าข่ายความผิดอย่างไรบ้าง
โดยรองโฆษก ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ผู้เสพสื่อออนไลน์ก็เห็นอยู่แล้วว่าการกระทำนี้เหมาะสมหรือไม่ แม้บริษัทผู้ผลิตเนื้อหาจะมีการออกแถลงการณ์แล้ว แต่เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น โดยเฉพาะความผิดที่เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องความมั่นคง ก็ต้องดำเนินตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทอาจทำเพื่อการตลาด แต่ก็ต้องดูเรื่องสิทธิและหน้าที่ด้วย อย่าทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง
โดยวานนี้ (15 พฤษภาคม 2565) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตัวแทนสมาชิกของกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว และ นายนพดล พรหมภาษิต ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ได้เดินทางไปให้ปากคำเจ้าพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน คดี lazada นารา มัมดิว และหนูรัตน์ โดยทางเลขาธิการ ศชอ. เปิดใจกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า
“… คดีที่เกิดขึ้นคงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า มีเจตนาร่วมกันจัดทำสื่อโฆษณา ที่มีเนื้อหาเป็นการดูหมิ่น ล้อเลียน ผู้ป่วยและผู้พิการ และมีเจตนาในการพาดพิง ดูหมิ่น สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ได้รับความเสื่อมเสีย ตนและคณะจึงเดินทางมาเพื่อเป็นพยานในคดีดังกล่าว โดยได้ให้การกับตำรวจ อย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งผู้หนึ่งผู้ใด เพราะสิ่งที่เห็นได้สะท้อน เจตนารมณ์อันชัดเจน ว่าผู้ผลิตมีเจตนาจะสื่อถึงอะไร
รวมทั้งยังได้ฝากเตือนกลุ่มบุคคล ทั้งเซเลป , influencer (อินฟลูเอนเซอร์) ที่กระทำการลักษณะดังกล่าว ขอให้หยุดการกระทำ เพราะสุดท้ายเมื่อมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็จะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่เพียงเท่านั้น ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ในวันอังคาร ที่ 17 พฤษภาคม นี้ คณะทำงานทีมงานสอบสวนสืบสวนชุดใหญ่ จะมีการประชุมเพื่อวางกรอบการทำงานเพื่อเร่งรัดในการทำคดีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น