“พิธา” ยื่นประกัน “ทานตะวัน” กลุ่มทะลุวัง หวังได้ประกันตัวตามสิทธิ์

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยื่นประกัน ทานตะวัน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหาคดี ม.112/ม.138 ว.2/ม.368 หลังอดอาหารในคุกมาแล้ว 27 วัน เชื่อได้สิทธิ์ในการปล่อยตัวชั่วคราว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกลในฐานะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร และทนายกฤษฎางค์ นุตจรัส เดินทางมายื่นขอประกันตัว นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมทางการเมืองผู้ต้องหาตาม ป.อาญามาตรา 112, ม.138 ว.2 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ม.368 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานฯและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2565 ซึ่ง น.ส.ทานตะวันได้อดอาหารอยู่ภายในเรือนจำมาเป็นระยะเวลา 27 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา ที่ ศาลอาญารัชดา

โดย นายพิธา กล่าวว่า ตนมีความกังวลในเรื่องสุขภาพของ น.ส.ทานตะวัน วันนี้จึงเดินทางมาเพื่อยืนยันหลักการว่าด้วยการสันนิษฐานว่า น.ส.ทานตะวัน เป็นผู้บริสุทธิ์ ในคดีซึ่งมีหลักการระหว่างประเทศที่รัฐบาลไทยได้ให้สัตยาบันไว้กับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ( ICCPR) ซึ่งบัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 29 วรรคสอง ว่าสิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิของพลเมือง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยจากการพูดคุยกับทนายความตามกฎหมายอาญา ม.108/1 ว่าด้วยการสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว จะมีเหตุเฉพาะแต่ทานตะวันไม่เข้าข่ายความผิด ทั้งหมดนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของมาตรา 112 เรื่องขอบเขตการบังคับใช้กว้างเกินไปมีอัตราโทษที่สูงเกินไปรวมถึงการแจ้งความโดยบุคคลใดก็ได้โดยไม่มีหลักเกณฑ์ ซึ่งกมธ.พัฒนาการเมือง ได้ทำการประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการถึงปัญหาการใช้กฎหมาย 112 แล้ว พร้อมกับตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาและพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อไป

นายพิธา กล่าวอีกว่า การบังคับใช้กฎหมาย ม.112 ในลักษณะนี้ นอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อผู้ต้องหาแล้วยังไม่เป็นผลดีต่อระบบกระบวนการยุติธรรมไทยส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย

วันนี้คาดหวังว่าทานตะวันจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่หากศาลไต่สวนคำร้องแล้วไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมก็ขอเรียกร้องไปยังสถาบันตุลาการ ว่าต้องยึดมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรมให้มาก ส่วนตัวขอยืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

ด้านทนายกฤษฎางค์ เปิดเผยถึงสุขภาพของทานตะวันล่าสุดว่ามีอาการหน้ามืดวันละ 3-4 ครั้งเป็นผลจากการอดอาหารอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ทนายความคงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดผู้ต้องหาในการใช้วิธีนี้ได้ แต่จะพยายามทำให้ศาลยึดมั่นในหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยในคดีเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีเหตุจะต้องนำเยาวชนอายุ 20 ปีไปคุมขังไว้เช่นนี้ คดีนี้จึงถือเป็นบทพิสูจน์ว่าระบบยุติธรรมไทยใช้ได้จริงหรือไม่

นอกจากนี้ ทานตะวัน เองก็ไม่ได้พูดคุยกับตนถึงการเรียกร้องสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะคิดว่าคงไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งๆที่ในคดีนี้ พนักงานอัยการยังไม่ได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีแต่อย่างใด โดยในวันนี้ ขณะที่เราได้มายื่นขอประกันตัว จะมีการไต่สวนคำร้องขอฝากขังด้วย ซึ่งหากศาลไม่รับฝากขัง ก็ต้องปล่อยตัว ทานตะวัน โดยไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น