เชียร์สุดใจ “ถาวร” ลั่น “อัศวิน” พร้อมเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่สุด

นายถาวร กล่าวต่อว่ ในเชิงนโยบายนั้น ตนคิดว่าต่างคนต่างก็ชูนโยบายให้สวยหรูได้ บางคนถึงขนาดพูดเพ้อฝันจนกระทั่งไม่รู้ว่าจะเอาเงินงบประมาณมาจากไหน หรือจนกระทั่งว่าไม่ใช่เป็นภารกิจการบริหารเมือง หรือกทม. แต่อาศัยการพูดแล้วไม่ต้องรับผิดชอบ พูดเพื่อให้ได้คะแนน บุคคลที่เป็นผู้สมัครที่มีบุคลิกเช่นนี้ มีพฤติกรรมเช่นนี้ ตนไม่เอา แต่เมื่อเอกซเรย์ดูพล.ต.อ.อัศวินแล้ว มั่นใจว่าสิ่งที่พูดสามารถทำได้ ต่อยอดได้ เพิ่มเติมของใหม่ได้ การเลือกครั้งนี้เป็นการเลือกระหว่างการตัดสินใจที่เอาผู้บริหารท้องถิ่นไปเป็นผู้สนับสนุนงานการเมืองระดับชาติ หรือทำงานร่วมกับการเมืองระดับชาติให้ได้ ถ้าเลือกเอาคนที่ไม่สามารถประสานงานได้สิบทิศ โดยเฉพาะกระทรวง ทบวง กรม และรัฐบาลทั้งหมด การแก้ไขปัญหากทม. และการพัฒนากทม.ก็จะต้องหยุดชะงัก และจะต้องเป็นเมืองที่เกิดปัญหาแน่นอน เมืองที่ชาวโลกนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเที่ยวก็จะกลายเป็นเมืองที่เกิดความวุ่นวายจากม็อบล้มเจ้า หรือม็อบเผาบ้านผาเมือง แต่ถ้าเป็นพล.ต.อ.อัศวิน ตนมั่นใจว่าเอาอยู่และสามารถแก้ไขปัญหาได้ สามารถที่จะสร้างความเข้าใจกับคนเหล่านั้นได้ และการพัฒนาต่อยอดการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ตามที่พล.ต.อ.อัศวินทำมาแล้ว ตนจึงตัดสินใจเลือก พล.ต.อ.อัศวิน เบอร์ 6 และกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯมาทำงานร่วมกันในวันที่ 22 พ.ค.นี้

เมื่อถามถึงจุดเด่นของพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นายถาวร กล่าวว่า จุดเด่นแรกคือความจงรักภักดี รวมถึงการไม่ทุจริต การประสานงานสิบทิศได้กับทุกกระทรวง ทบวง กรม การให้ความร่วมมือกับประชาชนทุกเหล่าอาชีพ โดยเฉพาะหาบแร่แผงลอย ถ้าเราประสานกันได้ ทำความเข้าใจกันได้ อยู่ร่วมกันได้กับคนใช้ถนน นี่ก็เป็นจุดเด่น อีกทั้งยังมีประสบการณ์และทีมงานพร้อม 5 ปี 5 เดือน 5 วันที่ผ่านมา ไม่เคยถูกร้องเรียนว่าทุจริต เหล่านี้คือจุดเด่น

เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าอายุเยอะไป ควรเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ นายถาวร กล่าวว่า คนที่มีอายุมากใช่ว่าจะไม่มีความรู้ความสามารถ ตนคิดว่าประสบการณ์และทักษะสำคัญกว่าปริญญาบัตร การทำงานยุคปัจจุบันหลายธุรกิจ หลายหน่วยงาน หลายองค์กร มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ ทักษะ ความรู้ความสามารถมากกว่าปริญญาบัตร ซึ่งประสบการณ์5 ปี 5 เดือน 5 วันนอกจากความรู้ความสามารถที่จับต้องได้แล้วนี่คือสิ่งที่สามารถพูดได้ว่าเป็นจุดเด่นของพล.ต.อ.อัศวิน ส่วนจุดอ่อนที่หลายคนมองว่าเป็นคนพูดไม่เก่งนั้น ตนมองว่า การพูดเก่ง การคุยโม้โอ้อวด การพูดเกินจริง ไม่ใช่เป็นสิ่งที่คนกทม.ต้องการ คนกทม.ต้องการคนที่จริงใจ จริงใจ และมีประสบการณ์ในการทำงาน มีทักษะและที่สำคัญมีผลงานจับต้องได้แล้ว ไม่ต้องมานับหนึ่งใหม่ สามารถต่อยอดได้เลย

เมื่อถามว่า การไม่เดินทางไปดีเบททำให้เสียงโอกาส และคะแนนเสียงตกมั้ย นายถาวร กล่าวว่า การนัดหมายที่ซ้ำซ้อนหรือการไม่ให้เวลากับสิ่งนี้ แต่เราต้องไปดูว่าเวลาเดียวกันนี้ พล.ต.อ.อัศวินไปทำอะไร อย่าลืมว่ายุคนายสมัคร สุนทรเวช ไม่เคยไปดีเบทเลย ดังนั้นการดัเบทบางครั้งเกิดการปะทะ วิวาทะ และเกิดความขุ่นข้องหมองใจกันมากกว่า ตนไม่เคยเชื่อว่าพิธีกรจะรักษาความเป็นกลาง และไม่เชื่อว่าการดัเบทจะเป็นการโชว์ความสามารถ แต่ความสามารถที่โชว์มาแล้ว 5 ปี 5 เดือน 5 วันของพล.ต.อ.อัศวินกับการพูดแค่ไม่กี่นาที ประชาชนจะเห็นอะไรได้มากกว่า ที่ผ่านมาได้เห็นวิสัยทัศน์ และความสามารถ ความจริงจังจริงใจต่อคนกทม. สำคัญที่สุดคือการแบ่งฝ่าย ณ วันนี้มีการใช้กลยุทธ์ของการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ หรือโหวตในเชิงยุทธศาสตร์กันขึ้นแล้ว ดังนั้นดีเบทหรือไม่ดีเบทไม่สำคัญ แต่สำคัญว่าจริงใจ จริงจังในการทำงาน และประชาชนจะเลือกฝ่ายไหน ฝ่ายล้มเจ้า ฝ่ายเผาบ้านเผาเมืองหรือ สิ่งเหล่านี้ประชาชนตัดสินใจได้